เวลา 08.00 น. วันที่ 4 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่พักรุนแรงมาก ทั้งลมทั้งฝนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ถึง 22.00 น. ของคืนวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ที่บริเวณกลางทุ่งนาบ้านนาโพธ์แดง หมู่ที่ 4 ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เช้านี้หลายครอบครัวได้เก็บสิ่งของที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนนี้ โดยในกลุ่มบ้านนี้มีบ้านเรือนประชาชนที่ถูกพายุพัดหลังคาปลิวเสียหายจำนวน 4 หลัง
กลุ่มบ้านที่ได้รับผลกระทบในตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมืองพิษณุโลกนี้ ปลูกอาศัยอยู่ในที่ดินสาธารณะของหมู่ 4 ตำบลวัดจันทร์ ส่วนใหญ่แล้วเป็นครอบครัวของชาวบ้านตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลกที่ได้มาขออาศัยที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านเพื่อปลูกบ้านพักอาศัยชั่วคราว ซึ่งได้ทำการก่อสร้างกันได้ประมาณ 1 เดือนกว่าๆแล้ว แต่ปรากฏว่าผลจากพายุที่พัดรุนแรงได้หอบหลังคาปลิวไปหลายหลัง เฉพาะกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 4 หลังที่ได้รับความเสียหายข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์การเรียน เครื่องนอนได้รับความเสียหายเปียกจากฝนทั้งหมด โดยเฉพาะอุปกรณ์การเรียนของเด็กนักเรียนที่และหลายคนวันนี้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้เพราะทั้งชุดนักเรียนและสมุดหนังสือได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เช้านี้นักเรียนได้นำสมุด หนังสือ ออกมาพึ่งตากแดดให้แห้ง
นางสาวบันดา สาระรัตน์ อายุ 57 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ บ้านเลขที่ 36 หมู่ที่ 10 บ้านไผ่ใหญ่ ตำบลวังนกแอ่นอำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า พวกตนเป็นชาวอำเภอวังทอง และมาประกอบอาชีพอยู่ในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลกนานแล้วเดิมทีก็ปลูกบ้านพักชั่วคราวอาศัยอยู่ในที่ดินสาธารณะของ หมู่ 9 ตำบลบึงพระ อำเภอเมืองพิษณุโลก แต่เมื่อทางการต้องการใช้ประโยชน์จึงได้อพยพออกมามาขออาศัยในที่ดินสาธารณะของหมู่ 4 ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยเริ่มมาปลูกบ้านพักชั่วคราวอาศัยอยู่บริเวณนี้ได้ประมาณเดือนกว่าๆแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมามีพายุฤดูร้อนพัดรุนแรงมากโดยช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ถึง 22.00 น.ทั้งลมทั้งฝนได้พัดอย่างแรง ได้หอบหลังคาบ้านตนปลิวออกไปอยู่กลางทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 30 เมตร ในบ้านพักอาศัยของตนที่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานประมาณ 10 คนต้องรีบวิ่งหลบฝนไปอาศัยอยู่กับบ้านอีกหลังหนึ่งที่หลังคาไม่เปิด เช่นเดียวกับนางสาวสโรชา สารารัตน์ อายุ 27 ปีลูกสาวของนางสาวบันดา ที่อาศัยอยู่บ้านหลังติดกันบ้านนี้ก็ได้รับความเสียหายหลังคาเปิดทั้งหมด
นางสาวสโรชา สาระรัตน์ เปิดเผยว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์ลมพัดแรงอย่างนี้มาก่อน ช่วงนั้นในบ้านตนมีคนอยู่ด้วยกันประมาณ 7 คน ประมาณ 20:00 น มีลมพัดมาก่อน กระทั่งประมาณ 21:00 น ทั้งลมทั้งฝนพัดแรงมากมาครั้งเดียวหอบหลังคาบ้านเปิดหมดจนต้องหอบลูกหอบร้านเปิดอาศัยอยู่บ้านข้างๆเพื่อหลบฝนเป็นการชั่วคราวก่อน
นางปริญญา แก่นจ้าย อีกครอบครัวหนึ่งที่บ้านถูกพัดหลังคาเปิดบอกว่า เพิ่งกู้เงินจากธนาคารออมสินจำนวนประมาณ 50,000 บา มาเพื่อสร้างบ้านพักที่นี่เป็นการชั่วคราว หลังจากต้องย้ายออกจาก ที่ดินสาธารณะของตำบลบึงพระและมาอาศัยอยู่ในเขตตำบลวัดจันทร์ เพิ่งสร้างเสร็จได้ไปประมาณเดือนกว่าๆเท่านั้น แต่มาเจอลมพัดแรงครั้งเดียว หลังคาและข้าวของเครื่องใช้ภายในเสียหายทั้งหมด
ขณะที่นายอำเภอเมืองพิษณุโลกได้สั่งการให้ผู้นำท้องที่กำนันผู้ใหญ่บ้านและอบต.ในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้น
………………………………………………………….