วันนี้ (18 มกราคม 2564 ) นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4( สาขาพิษณุโลก) พร้อมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงพร้อมหน่วยราชการและชาวบ้าน อ.วังทองประมาณ 200 คน พร้อมอุปกรณ์ และรถไถ รถบรรทุกน้ำร่วมทำแนวป้องกันไฟป่าตาม”โครงการจัดทำแนวกันไฟเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าที่ บ้านแก่งเจริญ หมู่ที่ 18 ตำบลวังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก เพื่อป้องกันไฟป่าเข้าในเขตอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวงโดย ดำเนินการทำแนวกันไฟ กว้างประมาณ 8-10 เมตร เป็นแปลงขนาด แปลงละ 50 – 100 ไร่ จำนวนทั้งหมด 700 ไร่ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปัญหาไฟป่าระดับประเทศ รองจากปัญหาโรคระบาดโควิค ทำลายทรัพย์สินและชีวิตของพี่น้องประชาชน และเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจังหวัดพิษณุโลก ถือว่าเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีแนวโน้มขยายวงกว้าง จึงได้เพิ่มระดับความเข้มขันของมาตรการป้องกัน ซึ่งในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงราย ชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก มีปัญหา และจังหวัดพิษณุโลกถือเป็นจังหวัดที่ 10 จำเป็นต้องเพิ่มระดับการเฝ้าระวังการเกิดจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่
วันนี้จึงพาประชาชนบ้านแก่งเจริญ มาร่วมกันทำแนวกันไฟ เพื่อปกป้องผืนป่าทุ่งแสลงหลวงไม่ให้ถูกไฟป่า ถือเป็นกิจกรรม Kick Off โครงการจัดทำแนวกันไฟ นำร่องความร่วมมือในการดูแล ป้องกัน รักษา ทรัพยากรป่าไม้ เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับพื้นที่อื่นๆต่อไปการจัดทำแนวกันไฟโดยรอบพื้นที่ป่า ที่ บ้านแก่งเจริญ หมู่ที่ 8 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัตพิษนุโลก พื้นที่ 700 ไร่ แก้ไขปัญหาไฟไหม้ทุกเกิดขึ้นประจำทุกปี ต้องมีแนวกันไฟ เพื่อหยุดยั้งเส้นทางไฟป่า ไม่ให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่อื่นต่อไป โดยเฉพาะทุ่งแสลงหลวง
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผุ้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้กล่าวเน้นย้ำว่าไฟป่าตอนนี้น่าจะเกิดจากฝีมือคนที่จุดในพื้นที่ตนเองและพื้นที่การเกษตรเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องทำความเข้าใจกับเกษตรกรและประชาชนและอีกประเด็นเกิดมาจากคนเก็บของป่าแล้วจุดไฟขึ้นมาล่าสัตว์ป่า แล้วล่าสุดคนหาปลา จุดไฟย่างปลา แล้วลุกลามมาริมลำน้ำเข็กขึ้นเข้าป่า ต้องมาจัดการ เจ้าพื้นที่ป่าไม้ต้องชี้แจงให้เข้าใจถ้ายังไหม้อยู่ ต้องเรียกมาไม่เช่นนั้นจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งอีกคนรักษา อีกคนปลูก อีกคนเผาปัญหาก็จะวนอยู่อย่างนี้