วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวพาไป ที่วัดนิมิตธรรมาราม หรือ วัดบ้านกร่าง ม.6 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งวัดแห่งนี้ได้เลี้ยงหมูไว้ 1 ตัว ชื่อว่า “เจ้าศุภโชค” หรือ โชค เป็นหมูที่มีลักษณะพิเศษ แตกต่างจากหมูบ้านทั่วไป โดยกลุ่มผู้เลี้ยงหมูมักจะบอกว่าหมูลักษณะพิเศษแบบนี้คือ หมูอัปมงคล ไม่มีใครกล้าฆ่านำไปเป็นอาหาร โรงฆ่าสัตว์ก็ไม่รับซื้อ ส่วนคนที่ลงมือฆ่าจะต้องมีอันเป็นไปถึงขั้นต้องเสียชีวิต ครอบครัวพบกับความฉิบหายทุกรายไป จึงนำมาถวายให้กับทางวัด ส่วนลักษณะพิเศษที่บอกคือที่ขาหน้าด้านขวานั้นจะเป็นแง่งขิง หรือเรียกว่าเป็นหมูตีนขิง คือจะมี 6 นิ้ว (ปกติหมูจะมี 5 นิ้ว) และดวงตาดำทั้ง 2 ข้างจะไม่เหมือนกัน ตาข้างซ้ายนั้นบริเวณรอบตาดำจะเป็นสีขาวทั้งหมด ส่วนตาขวารอบตาดำจะเป็นสีน้ำตาลทั้งหมด ปัจจุบันเจ้าศุภโชคนั้น มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง ที่ทางพระและชาวบ้านช่วยกันสร้างไว้อยู่ท้ายวัด และคอยนำอาหาร ผลไม้ มาให้กิน วันละ 2 เวลา ผ่านมา 17 ปี เจ้าศุภโชคกลายเป็นหมูยักษ์น้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม กลายเป็นขวัญใจของชาวบ้านในชุมชน
ทางด้านพระพระครูวิริยธรรมนิมิต เจ้าอาวาสวัดนิมิตธรรมาราม กล่าวว่าเมื่อ 17 ปีที่แล้ว มีญาติโยม นำลูกหมูวัยประมาณ 2 ปี มาถวายให้กับทางวัด ตอนนั้นน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม ญาติโยมเขาก็บอกว่า หมูตัวดังกล่าวเป็นหมูตีนขิง มีลักษณะพิเศษขาหน้าขวา มี 6 นิ้ว และดวงตามี 2 สี แต่ตามความเชื่อของผู้เลี้ยงหมู คือเป็นหมูอัปมงคล ห้ามฆ่า ห้ามกินจึงไม่มีใครกล้าฆ่านำไปเป็นอาหาร โรงฆ่าสัตว์ก็ไม่รับซื้อ ส่วนคนที่ลงมือฆ่าจะต้องมีอันเป็นไปถึงขั้นต้องเสียชีวิต ครอบครัวพบกับความฉิบหายทุกรายไป จึงนำมาถวายให้กับทางวัด ก็เลี้ยงดูมาตลอดเจ้าศุภโชคเป็นหมูที่เชื่อง ไม่เพ่นพล่านจะอยู่แต่ตรงอาณาจักรของตัวเอง หิวก็ไม่ร้อง จะร้องแค่เหมือนดีใจเวลาที่มีคนแวะไปหา หรือนำอาหารไปให้กิน วันนึงก็จะเลี้ยงอาหาร 2 มื้อเป็นอาหารที่เหลือจากที่พระไปบิณฑบาตมาได้คลุกๆ ให้พระลูกวัดนำไปเลี้ยง นอกจากนี้ก็ยังมีที่ชาวบ้านแวะเวียนผ่านมาเลี้ยง ช่วงหน้าร้อนชาวบ้านและพระลูกวัด ก็จะช่วยกันอาบน้ำให้คลายร้อน อาหารสุดโปรดที่เจ้าศุภโชคชอบกินมาก็คือ แตงโม กับมะม่วงสุก โดยเฉพาะมะม่วงสุกให้ทั้งลูกเจ้าศุภโชคก็จะคายเม็ดมะม่วงออกมาเอง ยามเจ็บป่วยก็จะมีญาติโยมที่เป็นหมอปศุสัตว์คอยมาดูแลรักษาและคอยฉีดยาให้ ผ่านมา 17 ปี เจ้าศุภโชคก็กลายเป็นขวัญใจของชาวบ้าน แต่ระยะหลังจะไม่ค่อยเดินไปไหนไกล เพราะน้ำหนักตัวกว่า 300 กิโลกรัม แต่ยังคงลุกเดินแบบใกล้ๆ เข้าคอกนอนบ้าง ออกมานอนในโคลนตมบ้างพอได้ ก็คงเลี้ยงดูแลกันไปจนกว่าเขาจะสิ้นอายุขัย ก็คงจะขุดหลุมฝัง เพราะเลี้ยงมาก็รักและผูกพัน
สำหรับใครที่มาเที่ยวที่ วัดนิมิตธรรมาราม โดยเฉพาะในช่วงลอยกระทงที่จะถึงนี้ ทางวัดจะจัดงานประเพณีเป็นประจำทุกปี ในระหว่างวันที่ 30-31 ตุลาคม 2563 มีตักไข่พาโชคลุ้นรับของรางวัลเป็นเครื่องจักสานฝีมือชาวบ้าน คนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ในราคา 10 บาท หรือจะแวะเวียนมาเลี้ยงอาหารเจ้าศุภโชคดูความน่ารักกันได้ที่บริเวณท้ายวัด หรือสอบถามชาวบ้านก็ได้ว่าคอกเจ้าศุภโชคอยู่ที่ไหน ชาวบ้านที่นี่ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าศุภโชค
/////////////////////////