มือยิงพวกเดียวกันตายเข้ามอบตัวแล้ว ตำรวจคุมตัวทำแผนที่ตำบลบ้านยาง

แม่พามือปืนยกพวกไปยิงคู่อริ แต่กระสุนปืนกลับถูกพวกเดียวกันเสียชีวิต มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยังสงสัยวิถีกระสุนปืนอาจมาจากกลุ่มอริด้วย แต่ยอมรับลูกชายผิดจริง

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 8 ก.ย. จากกรณีแก๊งวัยรุ่น ต.ดอนทอง อ.เมือง ซิ่งรถจักรยานยนต์รวมทั้ง 4 คัน จำนวน 7 คน บุกถิ่นคู่อริที่ หมู่ 2 บ้านป่าคาย ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ แล้วยิงปืนขึ้นฟ้าและหวังสาดกระสุนปืนใส่กลุ่มชาวบ้านที่นั่งล้อมวงคุยอยู่บ้านจนเป็นเหตุให้กระสุนปืนถูก นายปริญญา เขตยะตา อายุ 19 ปี ชื่อเล่น “นิว” อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 7 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อนร่วมแก๊งค์เสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ที่ขับมาเพียงคนเดียวบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 175 หมู่ 2 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ที่เปิดเป็นร้านขายของชำชื่อร้าน เจ๊แมวขนส่ง กลางดึกคืนวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ทราบชื่อมือปืนต่อมาคือ นายราเมษ ทิพย์โรจน์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 6 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านพัก

ล่าสุดเช้าวันนี้นางกาญจนา ทิพย์โรจน์ อายุ 57 ปี แม่ของนายราเมษ พร้อมญาติ ได้พานายราเมษ ลูกชายไปมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน และดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธไปในสถานที่สาธารณะ ในเมือง ชุมชน โดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้าน นางกาญจนา ทิพย์โรจน์ แม่ของนายราเมษ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายตนเองเป็นคนที่รักเพื่อนมาก วันเกิดเหตุมีวัยรุ่นในหมู่บ้านมาบอกให้ไปเคลียร์เรื่องปัญหาส่วนตัวที่ทะเลาะกันและถูกฟันขามา กับวันรุ่นบ้านป่าคาย อ.วัดโบสถ์ แต่หลังเกิดเหตุวัยรุ่นกลุ่มเดียวกัน กลับบอกไม่จักลูกชายตนเองอีก แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ยอมรับว่าลูกชายตนเองเป็นคนลงมือยิงใส่กลุ่มอริจริงและพลาดไปโดนกลุ่มเดียวกัน ซึ่งตนก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังเคลือบแคลงใจถึงวิถีกระสุนปืน ที่มี 3-4 นัด นั้น อาจไม่ใช่ของลูกชายตนเองทั้งหมด อาจมีกระสุนปืนมาจากกลุ่มอริจริง และยิงออกมาด้วย ซึ่งอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยครอบครัวตัวเองมีฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายสู้คดีแต่อย่างใด แต่ก็พาลูกชายมามอบตัว เพื่อสู้คดีดังกล่าวเบื้องต้น นายราเมษ  ทิพย์โรจน์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า รุ่นน้องในกลุ่มของตนไปมีเรื่องกับวัยรุ่นคู่อริต่างหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ และมาบอกกับตนให้ช่วยไปเคลียร์ปัญหาให้ ด้วยความที่ต้องไปเผชิญหน้ากับกลุ่มคู่อริจึงพกอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ตอนแรกตั้งใจไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัวเฉยๆ โดยไปกันทั้งหมด 7 คน แต่เมื่อไปถึงแล้วพบว่ามีชายวัยรุ่นเดินออกมาอย่างไม่เกรงกลัว พวกตนเลยคิดว่าวัยรุ่นคนนั้นก็น่าจะมีอาวุธปืนด้วยถึงกล้าเดินมาหา จึงตัดสินใจชักอาวุธปืนยิงสวนออกไปก่อน และไม่ทันสังเกตเห็นนายปริญญา เขยะตา ผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์วนกลับมาในแนวกระสุนปืน เพราะตนไม่ได้ตั้งใจที่จะคิดฆ่าน้องเพราะรู้จักกันมานานแล้ว ตอนนี้ก็เสียใจและยอมรับกับสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมด และขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมาย

ด้านนางรัฐยา นาคโชติ อายุ 56 ปี ป้าของน้องนิวผู้เสียชีวิตให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตาว่า ในเมื่อคู่กรณีเขาออกมารับผิดชอบเราก็ดีใจ ให้อภัยได้ เพราะอย่างไงคนก็ตายไปแล้วเอาชีวิตกลับคืนมาไม่ได้แล้ว แต่เราก็เสียใจ หลานทั้งคน แต่ไปด้วยกันเขาหน้าจะหันมามองกันบ้าง แบบหันกลับมาดูหลานตนบ้าง แต่นี่คือทิ้งไปเลยอ่ะ ขับรถหนีไปเลย เราเสียใจตรงนี้ที่ทิ้งหลานเราไปเลย คือเป็นเพื่อนกันแบบไหนทิ้งหลานเราแบนี้ เราเสียใจ รู้ว่ากลัว รู้ว่าตกใจ แต่น้องนิวก็เพื่อนไหม นี่ปล่อยทิ้งไว้ข้างทางแบบนี้เลยเสียใจมาก ปกติแล้วน้องนิวหลานของตนก็ชอบตามกลุ่มนี้ตลอด ดื้อพูดไม่ค่อยฟัง วันนั้นมาทำงานกับลุงเขาที่ตลาดไทเจริญ กินข้าวเสร็จเราก็บอกให้กลับบ้านไปนอน น้องนิวก็ตอบเพียงว่าครับ เราก็เข้านอน ยังไม่ถึงชั่วโมงเลย ก็มีคนโทรมาบอกว่าน้องโดนยิงแล้ว ส่วนตัวแล้วก็พอใจในรูปคดีที่คนผิดออกมายอมรับผิดถึงจะไม่เจตนาก็ตาม

สำหรับบรรยากาศที่วัดบ้านป่า ญาติได้เตรียมตัวจัดพิธีสวดอภิธรรมศพน้องนิวเป็นคืนสุดท้าย ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้เวลา 16.00 น. ขณะแม่ของน้องนิวในวันนี้ได้ไปเดินเรื่องทำใบมรณะบัตร ส่วนทางญาติของน้องนิวก็ได้รวมกลุ่มกันจัดเตรียมทำอาหารสำหรับต้อนรับแขกในวันนี้ ทุกคนต่างยังอยู่ในอาการเศร้าโศก เสียใจ เพราะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นลูกหลาน เห็นมาตั้งแต่ตัวน้อยๆ มาด่วนจากไปไวเหลือเกิน

/////////////

แสดงความคิดเห็น