เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่บริเวณนาข้าว ม.2 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ.ต.ต.สุภาพ เงินแก้ว ร้อยเวร สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีรถยนต์ที่จอดไว้ข้างทางถูกทุบกระจกรถเข้าไปลักทรัพย์สิน เป็นโทรศัพท์มือถือ และเงินสดจำนวนหนึ่ง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุบริเวณข้างทาง พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดราก้อน สีเขียว หมายเลขทะเบียน บจ.1985 พิษณุโลก ถูกทุกกระจกแค๊ปข้างขวาจนแตกหลุดออกมากองอยู่ที่พื้นทั้งแผ่น ใกล้กันพบมีดหวดตกอยู่บริเวณใต้รถ สอบถาม นายสุวิทย์ อ่ำอยู่ อาย 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/3 ม.2 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของรถคันดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 9 โมงเช้าวันนี้ ตนก็ขับรถคันดังกล่าวบรรทุกเครื่องตัดหญ้า เครื่องพ่นยา และจอบ มีดหวด มาตัดหญ้าริมๆนาข้าว ตัดเสร็จก็ลงไปพ่นยาในนาข้าว จนยาหมดถังพ่น ก็กลับขึ้นมาพักเหนื่อย พอเดินขึ้นมาเห็นกระจกตกอยู่ข้างรถทีแรกก็คิดว่าเป็นกระจกรถคนอื่นเขวี้ยงมา แต่เห็นมีดหวดตัวเองด้วย จำได้ว่าเอาไว้หลังรถแต่ทำไมตกอยู่ที่พื้น พอเงยหน้าขึ้นดูก็พบว่าเป็นกระจกรถตัวเอง โดนทุบไปแล้ว จึงเปิดรถเข้าไปดูในรถ ก็พบมีรอยรื้อค้นของภายในรถ และโทรศัพท์มือถือหายไป 1 เครื่อง พร้อมกับเงินสด 1300 บาท และใบขับขี่ พร้อมด้วยล็อตเตอรี่ 2 ใบ ที่พับสอดไว้ในโทรศัพท์ จึงให้เพื่อนบ้านโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
นายสุวิทย์ อ่ำอยู่ ยังตัดพ้อต่ออีกว่า ตนก็เป็นคนที่นี่ คนร้ายไม่น่าทำกันได้ เงิน 1300 บาทที่มี ลูกก็เพิ่งจะให้มาซื้อยาพ่นนาข้าวแท้ๆ แต่ก็ไม่ทันได้ซื้อมาหายซะก่อน แล้วอีกอย่างรถที่จอดก็อยู่ในเขตชุมชน นาข้าวก็อยู่ริมถนน แล้วยังทุบรถกลางวันแสกๆ ไม่น่าทำกันได้ ตนจอดรถตรงนี้มาหลายสิบปี ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเก็บรอยนิ้วมือแฝงที่บริเวณกระจกรถและมีดที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นอาวุธทุกกระจก ก่อนขโมยทรัพย์สินไป และจะไปทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้หรือไม่ เพื่อจะเร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป