วอนช่วยครอบครัวยากจน แถมถูกยึดที่ดินทำกิน เนื่องจากค้ำประกันซื้อรถให้ลูกเขย

วันนี้ 14 สิงหาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีครอบครัวยากจนที่ต้องผจญกับโชคชะตาทับถม และถูกหลอกจนต้องเสียที่ดินทำกินสุดท้ายหลังพลาดไปเซ็นต์ค้ำประกันซื้อรถยนต์ 6 ล้อ ให้กับลูกเขย แต่ไม่ยอมผ่อนชำระ จนถูกกรมบังคับคดียึดทรัพย์และเตรียมขายทอดตลาด 27 ส.ค.นี้ โดย นางวิลัย สิงห์ธรรม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 6 ต.บ้านมะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมกับเปิดให้กับผู้สื่อข่าวว่า ที่ดินที่มีอยู่ประมาณ 67 ตารางวากำลังจะถูกยึด เนื่องจากตนไปค้ำประกันการซื้อรถยนต์ให้อดีตลูกเขย ตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งรถยนต์ 6 ล้อก็ยึดไปแล้ว และทางราชการก็มายึดที่ดิน หรือ นส.3 ก. ทั้งๆที่ เอกสารสิทธิ์ติดจำนองไว้กับคนรู้จักในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาได้กู้เงินมาและผ่อนดอกเบี้ยเดือนละ 200 บาท สงสารหลานๆ ทั้ง 3 คน ตนก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกวันตนต้องเก็บขยะขาย วอนให้ช่วยเหลือเรื่องที่ดิน ยอมรับว่า มีบุคคลใส่ชุดข้าราชการมา บอกให้ ตนเซ็นชื่อ ซึ่งตนก็ไม่รู้เรื่องเพราะอ่านหนังสือไม่ออกจึงได้เขียนชื่อลงไปเท่านั้น จากนั้นไม่นาน เขาก็มาบอกว่า รู้หรือไม่ว่า ที่ดินผืนนี้ ถูกยึดแล้ว ซึ่งตนก็งง ว่า ทำไม ที่ดินตนจึงถูกยึดไปเป็นของคนอื่น ๆทั้งที่ดินของตนนั้นได้มาจากสามี ซึ่งเลิกไปแล้ว และยกที่ดินผืนนี้ ( 67 ตารางวา) ให้มานานแล้ว

“อยากให้ช่วยป้าด้วย เพราะทุกวันนี้ ต้องเลี้ยงหลานจำนวนอีก 3 คน ซึ่ง 1 ใน 3 คนก็เป็นลูกของอดีตลูกเขยคนที่ให้ป้าเซ็นต์ค้ำประกันด้วย หากกรมบังคับคดี ยึดที่ดินไป ป้าก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร สงสารเด็กๆ ด้วย เพราะถ้ายึดที่ดินยึดบ้าน ก็ต้องไปอาศัยวัดแน่ๆ อีกทั้งตน ได้ผ่าตัด จากมะเร็งมดลูกไม่สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ หารายได้เลี้ยงชีพเพียงเหลา ไม้กวาดขาย และเก็บขยะขายไปวันๆเท่านั้น”

นางวิลัย เผยอีกว่า ทุกวันนี้เงินรายได้ไม่ค่อยเพียงพอ ยังดี ที่แต่ละเดือน“บ้านพักเมตตา” ส่งเงินให้ตนเดือนละหนึ่งพันบาท ซึ่งทุกเดือนก็ไปถอนเงินมาเพื่อซื้อข้าวสารไว้ก่อน จากนั้นก็ต้องเก็บเงินไว้ซื้อไข่เก็บเอาไว้ เพราะต้องให้หลานกินทุกวัน และทุกวันจะต้องให้เงินหลานๆ ทั้ง 3 คน จำนวน 20 บาท ซึ่งโรงเรียนจะเก็บออมไว้คนละ 10 บาท ถามว่า เงินพอไหม ก็คงไม่พอ ส่วนอาชีพของตน ก็คือ เหลาไม้หวาด และออกเก็บขยะ เพื่อคัดแยกมาขาย ขณะที่ในแต่ละเดือน ก็มีเงินจากลูกสาว ที่ทำงานกรุงเทพ ส่งมาให้ตน เพื่อเลี้ยงหลาน หรือลูกของเขา บ้าน เดือนละพันบาท บางเดือนก็ไม่ได้ส่ง บอกว่า เงินไม่มีต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน เมื่อถามว่า โกรธลูกตนเองไหม ที่ให้ตนเลี้ยงลูกทั้ง 2 คน ซึ่งสีหน้าของ นางวิลัย แสดงออกถึงความ เป็นหัวอกแม่ บอกทั้งน้ำตาเพียงว่า ไม่โกรธ

ทั้งนี้ตามข้อมูล ประกาศเจ้าพนักงานบังคับดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก เรื่องการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสำนัก น.ส.3 ก จาก ศาลแขวงพิษณุโลก คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.129/2555 ระหว่าง บริษัทสินวิรุฬกิจจำกัด เป็นโจทย์ กับ นายรัฐพล จันทร์แดง จำเลยที่ 1 นายอาดุล มาสน จำเลยที่2 นายวิลัย สิงห์ธรรม จำเลยที่ 3 โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีจะขายทอดตลาดที่ดินน.ส.3 ก เลขที่ 1128 เลขที่ดิน 142 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมสิ่งปลูกสร้าง รวม 4 นัด คือ ครั้งที่ 1 ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 และครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคมนี้ โดยทรัพย์ที่จะขาย คือ บ้านพักอาศัยตึก 1 ชั้น ไม่ปรากฏเลขทะเบียน กว้าง 6 เมตร ยาว 8 เมตร โรงจอดรถ กว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร ราคาประมาณ 328,500 บาท

ซึ่งในวันนี้ ทาง จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปบ้านเลขที่ 85 หมู่ 6 ต.บ้านมะต้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ครอบครัว นางวิลัย สิงห์ธรรม หลังจากได้ทราบว่า ครอบครัวนางวิลัย ยากจนและกำลังถูกกรมบังคับคดี ยึดที่ดิน เนื่องจากไปเซ็นต์ค้ำประกันกับอดีตลูกเขยที่ผ่อนรถยนต์ด้วยระบบเงินไฟแนนซ์ ของบริษัทเอกชนรายหนึ่งผ่อนไม่ครบและยึดรถยนต์ไปแต่ทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ ทำให้ทนายบริษัทเอกชนตามมายึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันบุคคลในที่สุด

////////

แสดงความคิดเห็น