เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ส.ค. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุ พิทยาเวชวิวัฒน์ ผกก.กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศพฐ.6 และ ร.ต.อ.นพดล ไม้งาม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันตรวจสอบดีเอ็นเอของผู้ต้องหาและของกลางยาบ้า จำนวน 205,000 เม็ด เป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด 2 ราย คือ นายประสิทธิ์ พุ่มมาลา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 5 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร และ นายชนินทร์ แสนสุข อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 หมู่ 6 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 205,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน กง 7689 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันเดียวกัน ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบ ไปพบรถยนต์เก๋งต้องสงสัยคันดังกล่าวขับขี่มาตามถนนเส้นพิษณุโลก-บางกระทุ่ม หมู่ 2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ โดยนายประสิทธิ์ พุ่มมาลา คนขับ และ นายชนินทร์ แสนสุข ผู้โดยสาร ได้ทำท่าทีมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าจำนวน 5 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษใส่ไว้ในช่องข้างประตูด้านคนขับ และพบยาบ้าจำนวน 205,000 เม็ด ห่อด้วยกระดาษสีเหลืองใส่ไว้ในกระสอบซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บสิ่งของด้านหลังรถ ผู้ต้องหาถึงกับตกใจหน้าถอดสีทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดยาบ้าทั้งหมดและรถยนต์ไว้เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
เบื้องต้น นายประสิทธิ์ พุ่มมาลา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองมีอาชีพเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ จ.พิจิตร และมีเอเย่นต์ยาเสพติดว่าจ้างให้ตนนำยาบ้าทั้งหมดไปส่งที่ จ.สุโขทัย โดยได้รับค่าจ้างเป็นการตอบแทนครั้งละ 10,000 บาท ซึ่งเคยทำมาแล้วถึง 2 ครั้ง ส่วน นายชนินทร์ แสนสุข ผู้ต้องหาอีกรายยังให้การปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น เนื่องจากนายประสิทธิ์ได้ชักชวนให้มาเป็นเพื่อนนั่งรถด้วยเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด พร้อมนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายพบว่าเป็นสีม่วงทั้งคู่ นอกจากนี้ยังพบว่ายาบ้าล็อตนี้มีอักษร Y1 ปั้มตราบนหีบห่อที่บรรจุเอาไว้ ซึ่งตรงกับยาบ้าล็อตเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ขนยาบ้าจำนวน 6 ล้านเม็ด ที่ จ.แพร่ และคาดว่าเป็นยาเสพติดของชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดน ที่ลำเลียงกระจายเข้ามาเพื่อส่งต่อให้กับเอเย่นต์ตามจังหวัดต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายยาบ้าแก็งค์นี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
////////////