เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ในพื้นที่ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ตามโครงการวุฒิสภาพบประชาชน เพื่อรับฟังความคิดและรับฟังข้อเสนอแนะ สื่อสารไปยังรัฐบาลต่อไป
นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภา ประธานกรรมาธิการกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาปฏิบัติหน้าที่ ในโครงการ สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนและบทบาทหน้าที่ อำนาจของวุฒิสภาจากการสอบถาม กรณีมีทหารและนักการทูตเข้ามาในประเทศไทย แล้วได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องกักบริเวณนั้น นางพิกุลแก้ว กล่าวว่า ปกติแล้ว คณะนักการทูตเข้ามาประเทศไทยไทย ใช้เอกสิทธิ์ทางการทูต โดยไม่ต้องตรวจอะไร เพียงแค่แสตมป์หนังสือเดินทางแล้วก็ผ่าน แต่บังเอิญว่า รัฐบาลไทยเราได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือ พรก.ฉุกเฉิน จึงทำไม่ได้ ต้องผ่านการตรวจคัดกรองเหมือนกับคนไทยทั่วไป และวันนี้ก็มี นักการทูตพยายามจะเข้าประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจ ทางเจ้าหน้าที่ไทยก็ยืนยันแล้วทำไม่ได้ จึงสามารถป้องกันได้ ซึ่งไม่ว่า กลุ่มสมาชิกประเทศอียู(ในยุโรป) ก็จะต้องทำตามเรา(ประเทศไทย)
วันนี้นักการทูตยุโรปได้เข้ามาไทยแล้ว จะขอไม่ให้กักตัว เขาอ้างว่า จะไปขอกักตัวที่บ้านพัก แต่เจ้าหน้าที่ไทยยืนยันว่า ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามกฎหมายไทย เรียกว่า เกือบหลุดไปแล้ว ”สว.พิกุลแก้ว กล่าว
ทั้งนี้ทีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก เมื่อสถานทูตเอสโตเนียส่เจ้าหน้าที่ของตนเอง โดยมีหลักฐานตรวจหาโรค COVID-19 แล้ว ซึ่งจะเข้าพักที่คอนโดใจกลางกรุงเทพ หลังลงสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากพื้นที่คอนโดไม่ใช่เขตของสถานทูต และมีการอ้างเอกสิทธิ์ทางการทูตในการเข้าพักคอนโดฯดังกล่าว ต่อมานิติบุคคลคอนโดฯ ยืนยันว่าไม่อนุญาตให้พักหรือกักตัว หวั่นติดเชื้อคนไทยที่พักตามปกติ จึงมีการเจรจานานกว่าหลายชั่วโมง เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (16 กรกฎาคม 2563) สุดท้ายเข้าหน้าที่ทางเอสโตเนีย (ประเทศยุโรป) ยินยอมทำตามกฎหมายไทย