วันที่ 14 กรกฏาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมอาชีพขายพวงมาลัยที่สามแยกเอ็กซเรย์ ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่ามีคนขายพวงมาลัยอยู่หนึ่งคนชีวิตกำลังตกระกำลำบาก ป่วยเป็นโรคต้อหินและเบาหวาน ส่งผลให้สายตาพร่ามัว ไม่สามารถมองเห็นระยะไกลได้ ส่งผลให้แทบจะขายพวงมาลัยที่เป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงตัวเองได้ พบนายหยี่ ทองรุ่ง เพื่อนร่วมอาชีพขายพวงมาลัย แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ชายคนดังกล่าวชื่อนายสุเรนทร์ บินและ อายุ 63 ปี จะมาขายพวงมาลัยต่อจากนายหยี่ในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. ทุกวัน โดยขายพวงมาลัยบริเวณเกาะกลางถนนช่วงถนนเลี่ยงเมืองพิษณุโลกมุ่งสู่จังหวัดนครสวรรค์
นายหยี่ ทองรุ่ง คนขายพวงมาลัย เปิดเผยว่า นายสุเรนทร์ บินและ ขายพวงมาลัยที่แยกเอ็กซเรย์ได้หลายปีแล้ว เมื่อก่อนยังสุขภาพดี ตายังมองเห็นได้ปกติ ทำให้สามารถเดินเร่ขายช่วงรถจอดติดไฟแดงได้สะดวก ต่อมาช่วง 2-3 ปีเริ่มป่วยโรคต้อหินและเบาหวาน ทำให้สายตามองไกลไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถเดินเร่ขายได้ตามปกติ ตนเห็นแล้วน่าสงสารมาก หวั่นว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และ รายได้ไม่เพียงพอกับค่าเช่าบ้าน และก็อาศัยอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียว ปัจจุบัน ก็ไม่สามารถขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านเช่ามาขายพวงมาลัยที่นี่ได้แล้ว ต้องอาศัยรถคนร้อยพวงมาลัยให้มาส่ง และมีตนกับเพื่อนที่ขายพวงมาลัย ช่วยดูแลพากลับไปส่งบ้านในช่วงเย็น
จากการสังเกตการณ์ขายพวงมาลัยของนายสุเรนทร์ บินและ พบว่า ต่างจากคนขายพวงมาลัยทั่วไปที่ยังพอเดินเหินได้คล่องแคล่ว เนื่องจากสายตาพร่ามัว จึงไม่สามารถมองเห็นระยะไกลได้ นายสุเรนทร์จะ คอยอยู่บริเวณเกาะกลางที่เป็นแท่งแบริเออร์ เมื่อรถติดสัญญาณไฟแดง ก็จะค่อย ๆ เดินชูพวงมาลัยและถั่วลิสงต้ม เดินเร่ขายให้ลูกค้าในราคาพวงละ 20 บาท ถ้ารถที่ต้องการซื้อจอดอยู่ไกล หรืออยู่อีกฝากหนึ่งของถนน แม้คนขับจะเปิดกระจกเรียกซื้อ นายสุเรนทร์ ก็ไม่สามารถเดินไปหาได้ เพราะระยะทางไกล นายสุเรนทร์ไม่สามารถเดินเร็วได้ ต้องค่อย ๆ เดินคลำทางไป จะมีขายได้บ้าง กับรถที่จอดติดไฟแดงคันหน้า ๆ ที่สนใจเรียกซื้อเท่านั้น
นายสุเรนทร์ บินและ อายุ 63 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เดิมตนมีภูมิลำเนาอยู่อ.เมือง จ.สงขลา ต่อมาได้ย้ายภูมิลำเนามาที่จังหวัดพิษณุโลกตามภรรยาที่ปัจจุบันได้เลิกลากันไปแล้ว และปัจจุบันได้ไปขออาศัยลงทะเบียนบ้านอยู่ในบ่านเลขที่ 110 ม.9 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ปัจจุบันนี้ตนอาศัยอยู่ในบ้านเช่าในต.ท่าทองตามลำพัง ที่ค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟเดือนละประมาณ 2,500 บาท
นายสุเรนทร์ เผยต่อว่า ในอดีต เคยทำงานอยู่การบินไทย ทำหน้าที่โหลดของขึ้นเครื่องบินอยู่ที่สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา การทำงานที่การบินไทยราบรื่นดี กระทั่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าคุมงานโหลด ต่อมาช่วงประมาณปี 2554 ได้เออรี่ออกจากการบินไทย จากนั้นใช้ชีวิตเสเพลระยะหนึ่ง ติดการพนันอยู่นานหลายเดือน กระทั่งใช้เงินหมด อดีตภรรยาจึงชักชวนมาอยู่ที่พิษณุโลก และยึดอาชีพขายพวงมาลัยที่แยกเอ็กซเรย์ได้หลายปีแล้ว ต่อมาได้แยกกับภรรยา จึงอาศัยอยู่ตามลำพังคนเดียว
“เดิมช่วงที่ยังปกติ สามารถขายพวงมาลัยได้วันละ 40-50 พวง ต่อมาช่วงปี 2560 ตนเริ่มป่วยเป็นเบาหวาน และต้อหิน ทำให้สภาพการมองเห็นเริ่มไม่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก มองได้แต่ใกล้ ๆ เห็นเป็นเงา ช่วงขายพวงมาลัยจึงไม่สามารถเดิมข้ามฝั่งถนนได้ ต้องอาศัยเดินอยู่กับเกาะกลางแท่งแบริเออร์ ทำให้ขายพวงมาลัยได้ลดลง เฉลี่ยวันละ 10-15 พวงเท่านั้น และต้องบอกลูกค้า ว่าเป็นธนบัตรแบงก์ยี่สิบบาทหรือไม่ เพราะตนมองไม่ค่อยชัด แต่ถ้าเป็นแบงก์ร้อย ตนก็มีเตรียมเงินทอนไว้ในกระเป๋าแล้ว เพื่อเตรียมทอนให้กับลูกค้า”
นายสุเรนทร์ เผยว่า ห่วงตนเองเหมือนกัน อายุเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และสุขภาพก็เริ่มไม่ดี สายตาก็พร่ามัว บ้านก็ยังต้องเช่าอยู่ ส่วนลูกสาวที่กำลังเรียนชั้นม. 2 นั้น ไปอยู่กับอดีตภรรยาแล้ว ทำให้ไม่เป็นภาระของตน ทุกวันนี้ก็จะพยายามขายพวงมาลัยไปเรื่อย ๆ เท่าที่ร่างกายทำได้ พอได้ค่าเช่าบ้านค่ากินรายวัน
นางชไมพร ทองเสริฐ อดีตภรรยานายสุเรนทร์ เปิดเผยว่า แม้ว่าจะเลิกกันไปแล้ว แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ เพราะช่วงนี้แทบมองไม่เห็น ตาพร่ามัว ช่วงเช้าก็จะมีคนขายส่งพวงมาลัยช่วยไปรับจากบ้านเช่ามาที่แยกเอ็กซเรย์ ช่วงกลับตนก็จะคอยมารับกลับไปส่งที่บ้านเช่า บางครั้งเดินขายไปเงินตกก็มองไม่เห็น
สำหรับผู้ใจบุญสนใจช่วยเหลือ สามารถอุดหนุนพวงมาลัยและถั่วต้มของนายสุเรนทร์ บิลและได้ ที่สามแยกเอ็กซเรย์ ฝั่งถนนเลี่ยงเมืองมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ จะขายในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. หรือ อยากร่วมบริจาคให้นายสุเรนทร์ โดยตรงก็สามารถทำได้ ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์นายสุเรนทร์ 088-1708970 หรือ ธนาคารกรุงไทย สาขาพิษณุโลก ชื่อบัญชีนายสุเรนทร์ บินและ บัญชีเลขที่ 601-094222-5
…………………………………………………………….