14 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนคลายล๊อคมาตรการต่าง ๆ ลง ส่งผลให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันมากขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังคงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชน คงมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มงวด การ์ดอย่าตก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่หนึ่งที่มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ และมากขึ้นในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ โดยห้างได้มีการคัดกรองตั้งแต่ทางเข้า กำหนดให้ลูกค้าที่จะมาใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน ตรวจวัดอุณหภูมิ เช็คอินผ่านแอฟพลิเคชั่น ไทยชนะ หรือลงทะเบียนการเข้าออก พร้อมทั้งได้มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทางเดินเข้า เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้า ส่วนภายในห้าง ได้จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดไว้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะตามจุดสัมผัสที่เสี่ยงในการก่อโรค เช่น ราวบันไดเลื่อน ประตูเปิดปิด ตู้เอทีเอ็ม ห้องน้ำ ตลอดจนได้กำหนดให้ร้านค้าต่าง ๆ ตั้งจุดวางเจลล์แอลกอฮอลในที่สะดวกในการใช้
นอกจากนี้ ยังได้นำนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้ เพื่อป้องกันการระบาดของโรค เช่น ตู้เตือนให้ผู้ใช้บริการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร ในการใช้บันไดเลื่อน หรืออย่างน้อยบันได 4 ขั้น ตู้อบรังสียูวี ฆ่าเชื้อโรคสินค้าที่ซื้อแล้วก่อนนำกลับบ้าน
ส่วนมาตรการกำหนดจำนวนผู้ใช้บริการภายในห้าง ได้กำหนดประตูเข้าออกไว้จากเดิมมี 6 ประตู เปิดให้บริการเข้าออกได้ 3 ประตู เวลาเปิด-ปิด จันทร์ – ศุกร์ 11.00-21.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 – 21.00 น. และกำหนดให้เข้าใช้บริการไม่เกิน ประมาณ 5 คนต่อ 1 ตารางเมตร ซึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา พิษณุโลก สามารถรองรับลูกค้าได้ 13,500 คน คนต่อวัน โดยมีกล้องวงจรปิดตรวจนับจำนวนคนเข้าออก แต่ช่วงนี้จะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 2000-3000 คน ต่อ ชั่วโมง ไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้
/////////////