วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าบรรยากาศหลังฝนตก ที่ลานหินปุ่ม ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ถึงแม้จะเป็นช่วงวันธรรมดาแต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวชมป่าหน้าฝน ชมความสวยงามของดอกไม้ป่า อย่างตาเหินไหว เปราะภู ที่บานเต็มสองข้างทางเดินเข้าสู่ลานหินปุ่ม ส่งกลิ่นหอมอบอวล ท่ามกลางสายหมอกไหลผ่านรอบตัวเย็นสบายท่ามกลางอุณหภูมิ 17-18 องศา เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบเดินป่าไปชมธรรมชาติอย่างมาก ทำให้จุดสำคัญๆบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไม่ว่าจะเป็นลานหินปุ่ม ลานหินแตก และบริเวณรอบๆ ที่ทำการอุทยาน เต็มไปด้วยดอกตาเหินไหว และดอกเปราะภู ที่ขาวสะพรั่ง ไม่เหมือนที่อื่นๆ เนื่องจากดอกเปราะภู ส่วนใหญ่ที่ขึ้นตามอุทยานแห่งชาติพื้นที่อื่นนั้นจะมีแต่สีชมพู แต่ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะเป็นสีขาวสดสวยงาม เนื่องจากแต่ละภูมิศาสตร์มีสภาพที่แตกต่างกัน
นายสุริยา กาละสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยังคงนิยมขึ้นมาเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม บรรยากาศป่าหน้าฝนบนภูหินร่องกล้านั้น มีความงดงามไม่แพ้เที่ยวในฤดูหนาว และเป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมเที่ยวป่าหน้าฝนบนอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ระดับความสูง 1,300-1,400 เมตร ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการมาเที่ยวชมและสัมผัสกับสภาพอากาศป่าฝน ชมดอกไม้นานาพันธุ์ ก็สามารถมาเที่ยวชมกันได้ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กันได้
สำหรับดอกตาเหินไหว เป็นพืชวงศ์ขิงข่าจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก มักพบขึ้นรวมกันเป็นทุ่งบนลานหิน เป็นพืชที่มีเหง้า เมื่อออกดอกออกผลแล้วลำต้นจะเหี่ยวยุบไปในฤดูแล้ง แล้วขึ้นมาใหม่ในฤดูฝน
ส่วนดอกดอกเปราะภูขาว เป็นพืชวงศ์ขิงข่ามีลักษณะคล้ายกับดอกกล้วยไม้ สีขาว มีเกสรสีเหลือง ตัดกับสีเขียวเข้มของลำต้นอย่างโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้ถือเป็นเจ้าหญิงประจำฤดูฝนของภูหินร่องกล้า ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง จึงทำให้เปราะภูที่นี่มีสีขาวอันเป็นความพิเศษที่แตกต่างจากดอกเปราะภูทั่วไป ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือน จะสามารถชมความงามของดอกเปราะภูสีขาวที่แต่งแต้มลานหินให้ดูพิสุทธิ์อ่อนหวาน ได้เฉพาะในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเท่านั้น
////////