นักเทคนิคการแพทย์หญิง อุไรวรรณ บุญจันทร์ รักษาการหัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งที่ 9 จังหวัดพิษณุโลก สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 อนุญาติให้หน่วยงานหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยได้ตามปกติ ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ การเบิกขอใช้โลหิตสูงกว่า 7,000 ยูนิตต่อวัน แต่สามารถจ่ายเลือดได้เพียง 50 เปอร์เซ็น เท่านั้น ทำให้จึงมีความต้องการเลือดสำรองไว้อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะกรณีแพทย์ไม่มีโลหิตเพียงพอที่ใช้ในการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดที่ต้องใช้โลหิตจำนวนมาก และเร่งด่วน อาทิ ผู้ป่วยที่เกิดภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน, อุบัติเหตุ, คลอดบุตร, เลือดออกในทางเดินอาหาร ฯลฯ ต้องมีโลหิตสำรองระหว่างการผ่าตัด 2 – 3 ยูนิต ในกรณีที่มีอาการรุนแรง 5 – 10 ยูนิต ถ้าหากโลหิตไม่เพียงพอต้องเลื่อนการผ่าตัด อาจะเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้
กรณีการนัดผ่าตัดที่เลื่อนจากช่วงการระบาดโรค โควิด – 19 ผู้ป่วยที่กลับมารักษาตามที่โรงพยาบาลนัดหมาย อาทิ โรคข้อเข่าเสื่อม, โรคกระดูก, โรคหัวใจ ชนิดไม่รุนแรง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
กรณีผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาเป็นประจำ อาทิ โรคธาลัสซีเมีย, โรคโลหิตจาง และโรคเกล็ดเลือดต่ำ ในรายที่เป็นชนิดรุนแรงต้องได้รับโลหิตในการรักษาเป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละ 1 – 2 ยูนิต หากไม่ได้รับโลหิต ผู้ป่วยจะมีสภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ในรายที่โลหิตจางรุนแรงอาจทำให้หัวใจทำงานหนักจนหัวใจล้มเหลวได้
จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงร่วมบริจาคโลหิต เพื่อส่งต่อโลหิตที่ดีมีคุณภาพปลอดภัยให้กับผู้ป่วย “ สำหรับผู้บริจาคโลหิต ระหว่างวันที่ 13 – 19 กรกฎาคมนี้ รับเสื้อยืด Every Blood Donor is a Hero เป็นที่ระลึก โดยบริจาคได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 9 จังหวัดพิษณุโลก สภากาชาดไทย หรือ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ใกล้บ้าน
//////////////