เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้รับการร้องขอจากชาวบ้าน ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ให้ช่วยงมพันธุ์ข้าวปลูก 42 กระสอบ ที่จมน้ำในแม่น้ำวังทอง หลังจากนำมาแช่น้ำเตรียมปลูก แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากระแสน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเชี่ยวกราก จึงทำให้เชือกที่มัดสะพานขาดกระสอบพันธุ์ข้าวปลูกจึงร่วงจมน้ำ
หลังรับแจ้งชุดนักประดาน้ำ 3 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิประสาทบุญสถาน ได้เข้าที่เกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำวังทอง ม.3 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก โดยมี นางพิสมัย เพชรวิจิต อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 ม.3 ต.นครป่าหมาก อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เจ้าของพันธุ์ข้าวปลูกทั้ง 42 กระสอบ ยืนคอยชี้จุดให้นักประดาน้ำช่วงลงงมค้นหา
นางพิสมัย เพชรวิจิต เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าในช่วงนี้ฝนในพื้นที่เริ่มตกชุก ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำวังทอง เริ่มมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนและครอบครัวจึงคุยกันว่ามีน้ำแล้วก็จะเริ่มลงมือปลูกข้าว เมื่อวานนี้จึงได้นำกระสอบข้าวปลูก ประกอบด้วยพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 20 กระสอบ และพันธุ์ข้าว กข.79 จำนวน 22 กระสอบมาเรียงแช่น้ำไว้บนสะพานไม้โดยใช้เชือกมัดสะพานไว้เพื่อรอให้ข้าวปลูกงอก เพื่อเตรียมน้ำไปปลูก จนกระทั่งเช้าวันนี้ตนก็เดินมาดูข้าวปลูกปรากฏว่าไม่เหลือข้าวปลูกแม้แต่กระสอบเดียว เพราะระดับในแม่น้ำวังทองเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้กระแสน้ำเชียวพัดเชือกสะพานที่วางข้าวปลูกไว้ขาดจึงทำให้กระสอบข้าวปลูกทั้งหมด 42 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1.6 ตัน มูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท ร่วงจมน้ำทั้งหมด ตนและญาติ พร้อมทั้งเพื่อนบ้านได้พยายามลงงมกันแล้ว แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้เพราะน้ำค่อนข้างเชี่ยวมาก ประกอบกับกระสอบข้าวปลูกเมื่อโดนน้ำจึงทำให้หนักกว่า 50 กิโลกรัม จึงจำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือจากนักประดาน้ำ ของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานมาช่วยงมขึ้นดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลางมหากว่า 1 ชั่วโมง ก็สามารถลำเลียงกระสอบข้าวปลูกขึ้นมาได้ 36 กระสอบ สูญหาย 6 กระสอบ โดยมีนางพิสมัย เพชรวิจิต เจ้าของพันธุ์ข้าวปลูก และญาติๆ ได้กล่าวขอบคุณนักประดาน้ำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานทุกนาย ที่มาช่วยงมหา พร้อมบอกต่อว่าถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่มาช่วยงม ตนเองก็คงขาดทุนไปกว่า 3 หมื่นบาทตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำนาด้วยซ้ำ แถมไม่มีพันธุ์ข้าวที่จะไปปลูกได้อีก หากต้องไปซื้อพันธุ์ก็ต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
//////////////////////////