วันที่ 16 พฤษภาคม 2563 ตลอดทั้งวันที่กองอำนวยการค้นหาผู้หลงป่า 4 ราย ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านม. 11 บ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้ประชุม วางแผน และกำหนดจุดให้ทีมเดินเท้า ออกสำรวจตามจุดต่าง ๆ ที่คาดว่าผู้หลงป่าจะไปหาแหล่งน้ำและอาหาร โดยวันนี้ นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง เป็นประธานในการประชุมร่วมกับทหาร ทีมกู้ภัยอุทยาน กู้ภัยพิษณุโลก กู้ภัยบูรพา เพื่อเร่งค้นหาผู้หลงป่าที่หลงไปในป่าทึบในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ปฏิบัติการค้นหาวันนี้ ชุดเดินเท้าหลายชุด ได้ออกเดินขึ้นไปสำรวจบนยอดเขาสูง ห่างจากหมู่บ้านระยะทาง 5-10 กิโลเมตร ตั้งแต่เช้า และได้เฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 3 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 มาร่วมสนับสนุนการค้นหา โดยใช้ลานจอดชั่วคราว ลานตากมันในหมู่บ้าน ห่างจากกองอำนวยการประมาณ 2 กิโลเมตร ช่วงบ่าย มีสัญญาณจากทีมค้นหาแจ้งวิทยุลงมายังกองอำนวยการว่า ได้ยินเสียงเคาะไม้ บริเวณพิกัดเนิน 710 ใกล้เคียงกับจุดที่พบสัญญาณการโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของผู้สูญหาย ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร แต่จากการเดินสำรวจ ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ และตลอดทั้งวันของการค้นหาวันนี้จนถึงเวลา 18.30 น. ไม่พบผู้สูญหายทั้ง 4 ราย
ในการประชุมของกองอำนวยการวันนี้ ได้กำหนดพิกัดบนแผนที่ ที่ยังไม่ได้ค้นหาอย่างละเอียด และคาดว่าจะเป็นจุดที่ผู้หลงป่าอาจจะยังคงพลัดหลงอยู่ เนื่องจากใกล้แหล่งน้ำ และบางจุดเป็นเขาสูง มีป่าทึบ ทำให้การสำรวจยังไม่ถึง วันนี้จึงมีการปรับแผนครั้งใหม่ ใช้เฮลิคอปเตอร์ของทหารและตำรวจ ลำเลียงทีมค้นหา ทั้งทหาร กู้ภัย ไปปล่อยลงตามพิกัดเป้าหมาย และให้ขนเสบียง อาหาร น้ำดื่ม ติดตัวไปด้วย ให้ทีมค้นหาค้างคืนอยู่บนเขาเลย เพื่อที่วันรุ่งขึ้น จะได้เริ่มออกเดินปูพรมค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง เปิดเผยว่า แผนปฏิบัติการวันนี้ หลังจากประชุมในภาคบ่าย ถ้ายังไม่พบ จะจัดทีมค้นหาขึ้นไปอีกจากหลากหลายหน่วยงาน ชุดต่าง ๆ ที่ขึ้นไปตอนเช้า และชุดขึ้นไปใหม่ ให้ขึ้นไปค้างคืนเลย เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการเดินเท้าขึ้นไปที่ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง ไอ้เฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 3 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 ช่วยขนทีมค้นหาขึ้นไปปักหลักค้างคืน กำหนดพิกัด เพื่อมีเวลาในการค้นหาได้มากยิ่งขึ้น 
นายอำเภอวังทอง เผยต่อว่า ได้เตรียมวางแผนขั้นตอนการขนย้าย ถ้าหากพบผู้หลงป่า เฮลิคอปเตอร์ได้สำรวจแล้วว่ามีจุดลงจอด หากทีมค้นหาพบ จะนัดไปเจอ ณ จุดลงจอด เฮลิคอปเตอร์จะนำทีมหมอพยาบาลขึ้นไปด้วย เพื่อประเมินอาการ รักษาพยาบาลเบื้องต้น หากมีอาการไม่รุนแรง เฮลิคอปเตอร์จะนำส่งโรงพยาบาลวังทอง อ.วังทอง แต่หากมีอาการหนัก จะนำส่งโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก 
นายบุญยืน น้อยอินทร์ อายุ 58 ปี พ่อของดช.ปัญญา น้อยอินทร์ ที่พลัดหลงกับญาติรวม 4 คน เปิดเผยว่า ตนรู้สึกแย่สุด ๆ เรื่องแบบนี้ไม่โดนใครไม่รู้ ตนและภรรยาได้ติดตามการค้นหามาที่กองอำนวยการทุกวัน ถ้าได้รับแจ้งเบาะแสลงมา ก็จะดีใจบ้าง ตอนนี้ลุกชายของตนอีกคนก็ขึ้นไปทีมค้นหาด้วย และค้างคืนอยู่บนเขา ส่วนตนและภรรยาได้แต่ภาวนาให้พบตัวลูกชาย
ส่วนนางนาง น้อยอินทร์ แม่ของ ด.ช.ปัญญา ที่สูญหาย กล่าวว่า ได้มีหมอดูทักว่า ตอนนี้ทั้ง 4 คนที่สูญหายไปนั้น ยังมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องด้วยทั้ง 4 ทำผิดป่า ส่งผลให้เจ้าป่าเจ้าเขาบังตาอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่หรือทีมค้นหาไม่เจอ ซึ่งทั้ง 4 นั้น อยู่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ ข้างถ้ำอภัย ซึ่งให้ญาติผู้เสียหายไปบอกกล่าว และถ้าเจอแล้ว ก็ให้แก้บนด้วยการเลี้ยงอาหารคาวหวานให้ด้วยาติโดยเร็ว
สำหรับชาวบ้านที่หลงป่า 4 รายประกอบด้วย นายวิโรจน์ ชัยชนะอายุ 45 ปี นางแดง ชัยชนะอายุ45 ปี นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ46 ปีและเด็กชายปัญญา น้อยอินทร์ อายุ13 ปี และสุนัขอีก 3 ตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวบ้านหมู่ 11 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โดยออกเดินทางจากหมู่บ้านขึ้นไปหาของป่าในเวลา 08.00 น.ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 จากนั้นช่วงบ่ายได้โทรกลับมาหาญาติบอกว่ากำลังจะเดินทางกลับแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลับมาบ้านตลอดทั้งคืน กระทั่งวันรุ่งขึ้นวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ได้โทรกลับมาบอกญาติอีกครั้งหนึ่งว่าหลงป่าหาทางออกไม่เจอกำลังเดินหาน้ำดื่มเพื่อประทังชีวิต จากนั้นทางญาติได้พากันขึ้นไปหาแต่ก็ไม่พบและวันที่ 14 พฤษภาคมได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยค้นหา
………………