วันที่ 21 เม.ย.63 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการเยียวยาการลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชน ระหว่างเดือนมี.ค. – พ.ค. วงเงิน 23,688 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ตามที่เสนอ และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มีมติรับทราบมาตรการช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าในกลุ่มของไฟบ้านที่ใช้ในครัวเรือนอย่างถ้วนหน้า ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการใช้ชีวิตของประชาชน ที่ร่วมมือกันดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการทำงานที่บ้าน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”ตลอดจนขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และทั้ง 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่ร่วมกันหารือเพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
สำหรับมาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัยจำนวน 22 ล้านราย โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 23,688 ล้านบาทและยืนยันว่าจะต้องมีการทำการบ้านพิจารณาหามาตรการมารองรับเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบต่อไป ในส่วนส่วนภาคธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบก็เริ่มมีการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อ หรือแจ้งตรงมายังตนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ศึกษาปัญหาและอุปสรรค ก่อนจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับมาตรการเยียวยาค่าไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1.มิเตอร์ไฟขนาดไม่เกิน 5 แอมป์ จะได้ใช้ฟรี 150 หน่วย หากเกินก็จะได้รับการดูแลให้ใช้ฟรีเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มนี้จะใช้ไม่เกินปริมาณ 150 หน่วยเป็นปกติ และถือว่าใช้ไฟน้อยอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้มีผู้ใช้ไฟฟ้าอยู่กว่า 10 ล้านครัวเรือน
กลุ่มที่ 2 มิเตอร์ไฟขนาดเกิน 5 แอมป์ ครอบคลุมประชาชนอีก 10 กว่าล้านครัวเรือน แบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ดังนี้ มาตรการที่ 1 หากใช้มากกว่าเดือน ก.พ.แต่ไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. มาตรการที่ 2 หากใช้ไฟเกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. บวกกับส่วนที่เกิน ซึ่งได้รับส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ มาตรการที่ 3 หากใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. บวกกับส่วนเกิน ซึ่งได้รับส่วนลด 30 เปอร์เซ็นต์ โดยการลดหย่อนดังกล่าวจะมีการคืนค่าใช้จ่ายให้ในรอบบิลถัดไป
สำหรับงบประมาณ 23,688 บาทที่จะใช้ในโครงการ และครม.เห็นชอบแล้วเป็นเงินอุดหนุนของ กกพ. ซึ่งจะใช้เงินจาก Call back ที่ กฟผ. กฟน. และ กฟภ. เตรียมไว้ลงทุน แต่มีเงินเหลือไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งเดิมเงินก่อนนี้จะใช้อุดหนุนค่า Ft เท่านั้น