เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่18 เมษายน 63 นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก (ทสจ.) นายวสันต์ ศรีสม ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากที่ชาวบ้านจำนวนทั้ง 4 หลังคาเรือน ของ ม.1 บ้านวังยาง ม.2 บ้านปากพิง(ออก) ม.3 บ้านปากดอน และ ม.5 บ้านวังน้ำคู้ ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเกิดรอยแยกของพื้นดินเป็นทางยาว ลอดไปใต้ถุนและบริเวณบ้าน เพราะวิตกกังวลในเรื่องความปลอดภัยและทรัพย์สิน หวาดผวาว่าจะเป็นรอยแยกแผ่นดิน เหตุเกิดดินทรุดตัวและส่วนใหญ่อยู่ใกล้เคียงกับแม่น้ำน่าน
นางน้ำอบ เปรมกาศ อายุ 62 ปี เลขที่ 37 หมู่ 1 บ้านวังยาง ต.วังน้ำคู้ อ.เมือง พิษณุโลก เปิดเผยว่า ค่ำคืนของวันที่ 13 เม.ย.63 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 14 เม.ย.63 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เรียกได้ว่าฝนตกหนักมากที่สุดในรอบปี มีเสียงฟ้าร้อง สลับเสียงฟ้าผ่า ตลอดทั้งคืน และมีลมกรรโชกแรง ตนและหลานๆ ไม่กล้าออกจากบ้านมาดูได้แต่นอนกอดกันอยู่ในที่นอน จนกระทั่งเช้าฝนหยุดก็ลงมาดูว่ามีอะไรเสียหายบ้าง ก็ถึงกับตกใจจนตัวสั่นเพราะพบว่าเกิดรอยแตกแยกของพื้นดินเป็นทางยาวประมาณ 20 เมตร ลอดยาวใต้ถุนบ้านไป ความกว้างของรอยก็ตั้งแต่ 30-50 ซม.ส่วนความลึกประมาณ 40-50 ซม. ด้วยความตกใจเพราะเกิดมา 62 ปี ไม่เคยพบไม่เคยเห็น ความเชื่อส่วนตัวของคนเฒ่าคนแก่ ก็กลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูกไม่ควร แม่ธรณีจึงพิโรธ ก็รีบจุดธูปบอกกล่าว ไปถึงวิญญาณบรรพบุรุษ แม่พระธรณี หากมีสิ่งใดที่ตนเอง และครอบครัวได้ล่วงเกินหรือทำผิดพลาดไป หรือต้องการให้ทำอะไรก็ขอให้มาเข้าฝัน มาบอกกัน อย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงไปกว่านี้เลย และจากนั้นจึงรีบแจ้งไปยัง นายวนัสนันท์ ขวัญอยู่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เข้าตรวจสอบความเสียหายและส่งเรื่องไปยัง อบต.วังน้ำคู้ แต่เนื่องจากเป็นเหตุการณ์แปลกที่แผ่นดินแยก ประกอบกับชาวบ้านหวาดกลัวจึงแจ้งต่อไปยัง ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก (ทสจ.) ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ เพื่อตรวจสอบเชิงลึกของสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินแยก และเพื่อหาแนวทางการแก้ไขช่วยเหลือประชาชนต่อไป
นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก (ทสจ.) หลังจากผู้นำท้องถิ่นได้แจ้งไป ตนและ จนท.ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ชาวบ้านร้องเรียนกรณีแผ่นดินทรุดตัวและแยก พบว่า บ้านเรือนดังกล่าวอยู่เป็นกลุ่มรอบๆเป็นพื้นที่เกษตรกรรมหรือผืนนา คาดว่า เป็นช่องทางน้ำ ลักษณะน้ำใต้ดินไหลเป็นโพรงไปยังแม่น้ำน่าน ยืนยันหลังจากนำไม้ยาว แหย่ลงไปบริเวณรอยแยก เพียงไม่ถึงเมตรก็สุดแล้ว ดังนั้น ไม่ใช่รอยแยกของเปลือกโลกแน่นอน เป็นเพียงชั้นดินแยก เนื่องจากดินในบริเวณนี้เป็นลักษณะชั้นดินทราย ทรายแป้ง และกรวด เมื่อถึงฤดูแล้งชั้นดินเหล่านี้จะหดตัว ตามสภาพของดินที่ขาดน้ำ พอเวลาที่ฝนตกมากดินทรายอุ้มน้ำในปริมาณมาก จึงทำให้ทรุดตัวลงไปตามชั้นหินกรวด
จึงได้ชี้แจงชาวบ้านแล้วว่าให้ใจเย็นๆ เป็นเพียง ปรากฏการณ์ธรรมชาติในช่วงภัยแล้งและเป็นการเกิดเหตุการณ์ดินทรุดลงไปไม่กว้าง เพียงตื้นๆเท่านั้น ฉะนั้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ตนในฐานะ ผอ.ทสจ.จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปถึง สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 (ลำปาง) ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบชั้นธรณีของผืนโลกต่อไป
…………………………………….