ผู้ว่าฯย้ำเข้มมาตรการล็อคดาวน์พิษณุโลก ห้ามจำหน่ายสุรา กักตัวคนเข้ามาใหม่ในจังหวัด 14 วัน

วันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก  นายพิพัฒน์  เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก  นพ.รัฐภูมิ  ชาภูนท รักษาราชการนพ.สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้พบปะสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงมาตรการล็อคดาวน์พิษณุโลก 1-30 เมษายน 2563 เพื่อค้นหาและสกัดกลุ่มเสี่ยง ที่จะมาแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดพิษณุโลก แม้ปัจจุบัน  จังหวัดพิษณุโลกตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันเพียง 3 ราย แต่หากไม่มีมาตรการคุมเข้มออกมา มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง

นายพิพัฒน์  เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก ได้ย้ำกับสื่อมวลชนว่า จะเป็นต้องใช้มตรการคุมเข้ม ล็อคดาวน์จังหวัดพิษณุโลก เริ่ม 1-30 เมษายน 2563 แม้จะเจ็บ แต่ก็เพื่อให้จบ   เพราะแม้ว่าจังหวัดพิษณุโลกจะมีผู้ติดเชื้อยืนยัน 3 ราย และการกักตัว ตรวจเชื้อผู้ใกล้ชิดยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม รวมถึงมาตรการกักตัวดูอาการแรงงานที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ แรงงานที่เดินทางกลับจากกรังเทพฯและปริมณฑล 3,000 กว่าคน แต่อาจจะมีผู้ที่มีเชื้อ แต่ไม่แสดงอาการอยู่จำนวนหนึ่ง จึงต้องคุมเข้มในการมาตรการนี้ และขอความร่วมมือประชาชนชาวพิษณุโลกในมาตรการต่าง ๆ เพื่อตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกายชาวพิษณุโลกทุกคนที่ผ่านด่านตรวจ และอาจจะเสริมไปถึงให้อสม.ลงไปตรวจอุณหภูมิร่างกายชาวพิษณุโลกทุกคน และ มาตรการกักตัว ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาภายในจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 จะต้องถูกกักตัวดูอาการที่บ้านพัก หรือ โรงแรมที่จังหวัดพิษณุโลกประสานไว้ โรงแรมไพลิน โรงแรมท็อปแลนด์ เป็นระยะเวลา 14 วัน

จังหวัดพิษณุโลกได้มีหลายมาตรการออกมา ได้แก่การตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกหมู่บ้าน  ให้ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อปท. ทำการตรวจเช็คอุณหภูมิ สอบถามประวัติการเดินทาง  ตั้งด้านตรวจรอบเขตจังหวัดพิษณุโลก รวมถึง ท่าอากาศยาน สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ ถ้าผู้เดินทางเข้ามาใหม่ จะถูกกักตัวดูอาการ 14 วัน และ ด่านตรวจรอบเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เพื่อค้นหาผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อ ด้วยการตรวจเช็คอุณหภูมิทุกคน

รวมถึง ประกาศคำสั่งล่าสุดวันนที่ 31 มี.ค.2563 ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างของรัฐ อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดพิษณุโลก ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เมษายน 2563 หากฝ่าฝืน ให้หัวหน้าหน่วยงานพิจารณาดำเนินการทางวินัย  ออกคำสั่งห้ามจำหน่ายสุรา ทั้งประเภท 1 และประเภท 2 ให้ปิดแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่ง อาทิ อุทยานแห่งชาติ น้ำตก เขื่อน บ่อตกปลา และ ขอความร่วมมือประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก งดออกจากบ้าน ในเวลา 23.00 น ถึง 05.00 น. ตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป.

ขณะที่การดำเนินการมาตรการป้องกันและยับยั้ง ไวรัสโกวิท 1 9 ในการดำเนินการจัดตั้งด่านป้องกันครบทุกหมู่บ้าน  จำนวน 1,048  หมู่บ้าน ทุกหมู่บ้าน จัดแล้วจะ เจ้าหน้าที่ อปพร. อสมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกำลัง เข้าเวรยาม ผลัดละ 5 นาย ปฏิบัติหน้าที่แสกนวัดอุณหภูมิประชาชนทุกวัน  และจัดทําทะเบียน  บันทึกประวัติการเข้าออกและกักตัวรายใหม่  เป็นเวลา 14 วัน   กรณีมีคนในหมู่บ้านที่ไม่ครบกำหนดถูกกัก 14 วันพยายามหลบหนี  ให้ดำเนินมาตรการเข้มข้น อนุญาตผ่อนปรน  คนในหมู่บ้าน  ที่จะออกไปทำไร่ทำนาแบบเช้าไปเย็นกลับ  รวมถึงการเดินทาง ข้ามจังหวัดแต่ต้องจัดทำ  ทะเบียน หากแจ้งข้อความเท็จ  จะมีความผิดตามกฎหมาย อนุโลมรถที่เข้าหมู่บ้าน  เพื่อขนส่งสินค้าอุปโภคอุปโภคบริโภคที่จำเป็น  รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานยนต์กู้ชีพกู้ภัย  รถขนส่งพัสดุรถราชการโดยอนุญาต และผ่อนปรน ภายใต้ข้อปฏิบัติและควบคุมของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด

ส่วนผู้ที่จะเดินทางออกจากจังหวัดพิษณุโลก สามารถเดินทางออกได้ แต่ผู้ที่จะเดินทางเข้าจังหวัดพิษณุโลกทุกช่องทาง จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวดูอาการ 14 วัน  ถ้าเลือกกักตัวที่บ้านพักตนเอง ก็จะรวมถึงกักตัวครอบครัวครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันด้วย หรือ หากจะเลือกกักตัวในโรงแรม จังหวัดเตรียมโรงแรมไพลิน และโรงแรมท็อปแลนด์ไว้จำนวน 100 ห้อง ในราคาห้องที่ประหยัด

นอกจากนี้ ในการออกมาตรการต่างๆ ออกมา จังหวัดพิษณุโลกได้ตั้งวอร์รูมที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก และได้ประสานขอเบอร์โทรศัพท์จากทีโอที 5 คู่สาย (เบอร์ 055 241555-9 )  ให้ประชาชนได้โทรศัพท์สอบถามถึงข้อปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัด  มีเจ้าหน้าที่คอยรับสายและตอบคำถามประชาชนในประเด็นต่าง ๆ เริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 2 เมษายน 2563 และวันที่ 4 เมษายน 2563 จังหวัดพิษณุโลก จะแถลงข่าวสื่อมวลชนอีกครั้ง ในการดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น

…………………

แสดงความคิดเห็น