จ.พิษณุโลกแถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเป็น 3 รายแล้ว เตรียมโรงแรมเอกชน 2 แห่งเป็นรพ.สนาม

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 มี.ค.63 ณ ห้องประชุมบุณยวงศ์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุข จ.พล.คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.พล. นำโดย นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผวจ.พิษณุโลก น.พ.ปิยะ ศิริลักษณ์  นพ.สาธารณสขจังหวัดพิษณุโลก  น.พ.รัฐภูมิ ชามพูนท ร.นพ.สสจ.พล. นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช นพ.อธิวัฒน์ น้อยประสิทธิ์ ผอ.รพ.พิษณุเวช พล. และ สำนักงานควบคุมโรคติดต่อ เขต 2 ได้ร่วมกันแถลงข่าวพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 3 ราย ใน จ.พิษณุโลก

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ของโควิด-19 ตอนนี้ค่อนข้างอยู่ในช่วงการระบาด ในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก ที่ผ่านมาได้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด วางเข้มทุกมาตรการมาตลอดจนกระทั่งวันนี้เราได้ตรวจพบผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย รวมเป็น 3 ราย ใน จ.พิษณุโลก โดยรายที่ 2 อายุ 20 ปี เป็นลูกสาวของผู้ติดเชื้อรายแรกโดยไทม์ไลน์พบว่า เดินทางร่วมกับผู้ติดเชื้อรายแรก และมีความใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก โดยเริ่มมีอาการไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.63 วันที่ 18 มี.ค.63 ไปนอนเฝ้าผู้ติดเชื้อรายแรกที่ รพ.เอกชน จากนั้นได้เข้าสอบ Take home กับเพื่อน 5 คน เดินทางไปศูนย์การค้าปทุมทอง ทำฟันที่คลินิกทำฟันเอกชน เดินทางไปห้างในจังหวัดพิษณุโลก และมีไข้เข้ารับการตรวจที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร จนกระทั่งวันที่ 24 มี.ค.63 เข้ารับการรักษาที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก สอบสวนโรค และทราบผลเป็นบวก(positive) ในวันที่ 25 มี.ค.63

ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ไทม์ไลน์พบ ต้นเดือน มี.ค.63 ไป จ.ชลบุรี กรุงเทพมหานคร มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านสุขุมวิท จนกระทั่งเดินทางกลับ จ.พิษณุโลก ในวันที่ 16 มี.ค.63 ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ในวันที่ 21 มี.ค.63 มีอาการป่วย เข้าตรวจ รพ.เอกชน ร้องขอการตรวจ โควิด-19 จนกระทั่งในวันที่ 25 มี.ค.63 ทราบผลเป็นบวก (Positive) เข้ารักษาตัวที่ รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก

ด้าน นพ.สุชาติ พรเจริญพงษ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ได้เปิดเผยว่า สำหรับผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ที่ตรวจพบนั้นมีอาการไม่รุนแรง ผลเอ็กซ์เรย์ปอดปกติ ได้รับยาตามมาตรฐานการรักษา และจากการสอบสวนโรคพบมีผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 9 คน ทาง รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ได้ติดตามตัวทั้ง 9 คนและติดตามเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด

ทางด้าน รศ.พญ.รสสุคนธ์ คชรัตน์ รองคณบดีฝ่ายบริการทางการแพทย์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวนโรคและไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยรายที่ 2 นั้น ทราบว่า เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร พักอยู่หอพักเอกชน ด้านนอกมหาวิทยาลัย มีการเดินทางไปในหลายพื้นที่ อาทิ ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ คลินิกทันตกรรมเอกชน และเข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยทราบว่าคนไข้ไม่ได้แจ้งประวัติว่ามีไทม์ไลน์ใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ป่วยรายแรก จึงทำให้ตรวจรักษาตามอาการเท่านั้น จนกระทั่งมาทราบว่าผู้ป่วยรายที่ 2 มีผลเป็นบวก จึงทำการแยกตัวเจ้าหน้าที่ ที่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ทำการตรวจรักษาเอาไว้แล้ว และจะตามตัวผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 2 มาทำการประเมินความเสี่ยงตามขั้นตอนต่อไป

น.พ.ปิยะ ศิริลักษณ์ ผช.ปลัดกระทรวง สธ. ได้ให้สัมภาษณ์ว่าที่ผ่านมาทางจังหวัดและสาธารณะสุข ได้ทำมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ คนไข้ทั้ง 3รายนี้จากการสอบสวนโรคมั่นใจว่าสาเหตุมาจากเที่ยวสถานบันเทิงในกรุงเทพมหานคร เมื่อทราบผลเป็นบวกทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ ทุกแห่งอยู่ในการรับรู้และเฝ้าระวัง วางแผนจัดการร่วมกับทางจังหวัดพิษณุโลก แต่จากนี้มาตรการจะเข้มค้นเพิ่มมากขึ้น และขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ในการเสนอตัวให้ใช้สถานที่จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม คือ โรงแรมลาพาโลมา มีห้องพักจำนวน 80 ห้อง และ โรงแรมเทพนคร มีห้องพักจำนวน 68 ห้อง โดยทั้ง 2 แห่งอยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดเตรียมสถานที่ไว้พร้อมแล้วในการจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม ขณะที่ โรงแรมอาคารลิไทเอง ได้จัดเตรียมห้องพักไว้ 10 ห้อง สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับทีมแพทย์และพยาบาล

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวว่าจากนี้สิ่งที่จะช่วยให้ยับยั้งการแพร่ระบาดในจังหวัดพิษณุโลกได้คือความร่วมมือของภาคประชาชนจะช่วยให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดมาก ขอความร่วมมือประชาชนชาวพิษณุโลก คือ หยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ไม่ไปในที่ชุมชน เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ ดูแลตัวเอง และหากตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางกลับจาก กทม.หรือพื้นที่เสี่ยง ขอให้เพิ่มการระวังตัวเอง กักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน หลีกเลี่ยงการพบปะคนอื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อให้กับคนอื่น

แสดงความคิดเห็น