17 มีนาคม 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มส่งผลให้ประชาชนออกมาตามแหล่งชุมชนลดลด โดยเฉพาะต่ามตลาดสดต่าง ๆ แม้ว่าข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกวานนี้แจงว่าในจ.พิษณุโลกยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เช้านี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายซื้อของอาหารเช้า ที่ตลาดใต้ ตลาดเทศบาล 1 และ ตลาดร่วมใจ ตลาดเทศบาล 6 อ.เมืองจ.พิษณุโลก พบว่า ประชาชนยังคงออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารเช้าตามปกติ ที่เห็นชัดเจนคือ พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนอีกจำนวนมาก ต่างสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งหน้ากากอนามัยแบบผ้า และหน้ากากอนามัยแบบปกติ
สอบถามพ่อค้าแม่ค้าหลายรายได้ให้ข้อสังเกตว่า ชาวพิษณุโลกค่อย ๆ ออกมาตลาดสดลงแล้ว การขายของในตลาดเริ่มขายได้น้อยลง อาจจะเป็นเพราะกลับการติดเชื้อ ทำให้ผู้คนอยู่กับบ้านมากขึ้น ขณะที่ร้านค้าบางรายไม่มีผลกระทบมาก เนื่องจากมีลูกค้าขาประจำ และได้ผูกกับฟู้ดแพนด้าและแกร็ปฟู้ด จึงไม่มีผลกระทบกับยอดขาย
วานนี้ 16 มีนาคม 2563 เวลา 16.45 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้จากข้อมูลผู้ติดเชื้อของประเทศที่เพิ่มขึ้น ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข และที่สำคัญพบว่ามีการติดเชื้อจากสถานที่ที่มีคนไปรวมตัวกันทำกิจกรรมเป็นจำนวนมากทำให้มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เช่น สนามมวย สถานบันเทิง และสถานที่ที่มีการทำกิจกรรมร่วมกันเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ในขณะนี้ได้มอบสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก กำชับ อสม. เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ คอยติดตามเฝ้าระวัง แรงงานผิดกฎหมายที่เดินทางกลับมาในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งในขณะนี้มีแรงงานที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เดินทางกลับมาที่พิษณุโลกและต้องกักตัวที่บ้านรวมกว่า 26 คน และหากพบเห็นผู้ที่เดินทางกลับมาโดยไม่มีการรายงานตัวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ อสม. แจ้งมายัง สสจ.พิษณุโลกโดยด่วน และกำชับในการรณรงค์ควบคุมโรคในศาสนสถานทุกศาสนาในจังหวัดพิษณุโลก ให้มีมาตรการการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย บริการเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ในระหว่างนี้ขอให้ยกเลิกการจัดงานที่มีคนมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของมาตรการคุมเข้มให้สถานประกอบการ สถานบันเทิงและร้านอาหาร มีการจัดทำความสะอาดสถานที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อปัองกันการแพร่ระบาดฯ นอกจากนี้ในการประชุมของส่วนราชการที่มีผู้ร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก เช่น การประชุมประจำเดิอน ขณะนี้มีแนวคิดที่จะประชุมผ่านระบบวิดีโอคอลอยู่ ณ ที่ตั้งของตนเอง และขอความร่วมมือโรงแรม ที่พัก รีสอร์ทตรวจคัดกรองผู้เข้าพัก ด้วยเทอร์โมสแกนทุกราย หากพบบุคคลต้องสงสัยให้แจ้งสาธารณสุขจังหวัดทันที เพื่อจะได้ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าสอบสวนโรคทันที นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีสายด่วนโควิด-19 ให้บริการคำปรึกษาสอบถามข้อมูล รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับ โควิด-19 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน สายด่วน 1422 อีกด้วย
…………………………………..