นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลกร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศในการเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ และเตรียมการรับมือวิกฤติฝุ่น PM 2.5 โดยมีการรายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและได้มาตรฐาน ผ่านแอพพลิเคชั่น Air4Thai ซึ่งประชาชนสามารถ download มาใช้เพื่อการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังได้ ซึ่งมีการดำเนินการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ ณ บริเวณสวนชมน่านฝั่งตะวันตก ถนนวังจันทน์ (หน้าสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก) โดยจะสามารถใช้ระบบได้ตั้งแต่ 4 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2563 (ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน)
นอกจากนี้จะมีการดำเนินการติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอัตโนมัติ ณ บริเวณสวนชมน่านฝั่งตะวันตก ถ.วังจันทน์ (หน้าสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ 3 วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก) จะเริ่มติดตั้งประมาณเดือนมิถุนายน 2563 คาดว่าจะใช้ระบบได้ประมาณเดือนตุลาคม 2563 
สำหรับในส่วนของเทศบาลนครพิษณุโลกได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เทศบาลนครพิษณุโลก โดยจะมีการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเขตพื้นที่เทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งจะปฏิบัติงานในการติดตาม วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ เพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และควบคุมสถานการณ์ รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้หน่วยงานในสังกัดเทศบาลนครพิษณุโลกมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในสถานการณ์วิกฤตฝุ่นละออง เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ ได้แก่ การตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับขนส่งจังหวัด และบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถราชการในสังกัดไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน การขอความร่วมมือในการไม่เผาขยะมูลฝอย ขณะเดียวกันยังได้กำหนดแนวทางให้มีการควบคุมและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่องบนท้องถนนและการก่อสร้าง
นายชาตรี ไชยวงค์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 3 ระบุว่า รถเคลื่อนคันนี้เป็น Mobil Unit ที่ติดตั้งชั่วคราว ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแบบถาวร หรือ Fix Station เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศในเขตชุมชน บริเวณสวนชมน่านฝั่งตะวันตก ในช่วงวิกฤตหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยสามารถตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และ PM 2.5 ,ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ,โอโซน รวมทั้งข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา เช่น ความเร็วลม ทิศทางลม ความชื้นสัมพัทธ์ รายงานผลคุณภาพอากาศผ่าน application Air4Thai ทั้งนี้จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2563 พบค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM.2.5 อยู่ในเกณฑ์ คุณภาพอากาศดี และเมื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศย้อนหลังไป 7 วัน จะพบว่าอำเภอเมืองพิษณุโลก มีคุณภาพอากาศดีมาตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม อย่างไรก็ตามจังหวัดพิษณุโลก ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ลดการเผาขยะ ตอซัง และฟางข้าว เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง และบดบังทัศนวิสัยในการใช้รถใช้ถนน 