วันที่ 25 ก.พ. 63 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ กองทัพภาคที่ 3 อ.เมืองพิษณุโลก พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นาย ไมเคิล ฮีธ (Michael Heath) อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพลตรี พีท จอห์นสัน MG Pete Johnson รองผู้บัญชาการกองกำลังกองทัพบกสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 20 โดยมีเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย อัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย อัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย
สำหรับการฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด – แปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ นับเป็นครั้งที่ 39 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึก เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการอำนวยการยุทธร่วมผสม ประยุกต์ใช้กำลังรบในสถานการณ์วิกฤตต่างๆ รวมทั้งการฝึกใช้ระเบียบปฏิบัติประจำกองกำลังผสมนานาชาติในการฝึกคอบร้าโกลด์ 20
โดยในปีนี้การฝึกคอบร้าโกลด์ มีประเทศเข้าร่วมการฝึกรวมทั้งสิ้น 29 ประเทศ ได้แก่ ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกหลักจำนวน 7 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน จำนวน ๒ ประเทศ ประกอบด้วย จีน และอินเดีย ประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ (Multinational Planning Augmentation Team : MPAT) จำนวน10 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และ ฟิจิ ประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึก (Combined Observer Liaison Team : COLT) จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ ลาว เวียดนาม บรูไน เมียนมา ปากีสถาน กัมพูชา อิสราเอล เยอรมนี สวีเดนและสวิตเซอร์แลนด์ จำนวนผู้เข้ารับการฝึกรวม 9,630นาย โดยใช้พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 กองทัพภาคที่ 3 และ บริเวณอ่าวไทยตอนบน เป็นพื้นที่การฝึกหลัก ในระหว่างวันที่24 กุมภาพันธ์ ถึง 6 มีนาคม 2563 ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) และโครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance : HCA)
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึกคอบร้าโกลด์ แบ่งเป็นสามระดับ ประกอบด้วย ระดับประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติในการเตรียมความพร้อมด้านการทหารที่มีความเข้มแข็ง ทันสมัย สามารถตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ เช่น การรักษาสันติภาพ การบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ส่วนในระดับกองทัพ เป็นการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพไทยในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะด้านการบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาค เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน และในระดับพื้นที่ที่เข้าทำการฝึก ได้รับประโยชน์จากการฝึกในส่วนโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ของโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของกำลังพลมิตรประเทศ ที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย
การฝึกคอบร้าโกลด์ 20 ในครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติแห่งโรคไวรัส COVID-19 ที่กำลังระบาดในหลายพื้นที่ กองทัพไทยได้วางแผนและกำหนดมาตรการป้องกันโรคไวรัส COVID-19 ในพื้นที่การฝึกเป็นอย่างดีและขอให้มั่นใจได้ว่า เรามีแผนที่มีความเหมาะสมในการดำเนินการ รวมทั้งได้กำชับให้ทุกหน่วยนำแผนและมาตรการไปใช้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมการฝึกทุกคน