รองแม่ทัพ 3 ชี้แจงโครงการบ้านจัดสรรรับกำลังพลเป็นนายหน้า

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.63 ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก พลตรี อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ชี้แจง กรณีโครงการสร้างบ้าน  ที่มีทหารนำที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ไปหลอกขายทหารชั้นผู้น้อย โดยใช้เงินสวัสดิการทหารบก ในพื้นที่ ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ตามที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเซียลนั้น

พลตรี อภิเชษฐ์  ซื่อสัตย์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนจากโซเซียล เรื่องที่ดิน อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร คณะทำงานกองทัพภาคที่ 3 โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ให้มีการสอบหาข้อเท็จจริง  เนื่องจากมีบริษัทแห่งหนึ่ง ดำเนินการซื้อที่ดินเอกสาร นส.3 ก ปี 2537 สร้างบ้านจัดสรร  แต่บริษัทดังกล่าวขาดสภาพสภาพคล่อง  จึงมีอีกบริษัทหนึ่งเข้ามาเกี่ยวข้องดำเนินการต่อ ปี 2551 มีทหารเข้าไปกู้เงิน จำนวน 22 ราย โดยกล่าวหาว่ากรมสวัสดิการทหารบก  นำที่ดินป่าสงวนมาทำโครงการจัดสรรให้กับกำลังพลชั้นผู้น้อย ซึ่งไม่ตรงกับความจริง  แต่เป็นการทำโครงการของบริษัทเอกชนทั่วไป บังเอิญมีทหารบางรายเป็นนายหน้า ไปหาลูกค้าให้กับบริษัทดังกล่าวเท่านั้น  แต่จะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่  ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิ์ยังตอบไม่ได้  ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพ.อ.ดร.รุ่งคุณ  มหาปัญญาวงศ์  โฆษก กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า จากการตรวจสอบบุคคลที่เป็นนายหน้านั้นเป็นทหารจริง แต่เป็นชั้นประทวน  ได้มีการเรียกมาสอบสวนของคณะกรรมกาสรสอบสวนหาข้อเท็จจริง  รับว่าเป็นนายหน้าจริง รวมทั้งทหารที่ได้รับความเสียหาย  เพื่อพูดคุยในกรอบสัญญาให้ถูกต้องที่ทำกันไว้  ว่าจะมีการสร้างบ้านให้เสร็จ  หรือมีการจ่ายค่าชดเชย  ถ้าไม่เป็นตามนั้นจะให้ความช่วยเหลือปรึกษาด้านกฎหมาย  ในการฟ้องร้องบริษัท เพื่อให้กำลังได้รับสิทธิและความเป็นธรรมกลับมา  การกระทำเป็นส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร และไม่ได้เชื่อมโยงกับหน่วยงาน  หากพบว่าผิดกฎหมายจริง หรือมีการหลอกลวง  ซึ่งจะโดนทั้งวินัย  สำหรับที่ดินทั้งหมดเป็น นส.3 ก. เพื่อใช้ประกอบการกู้เงินจากสถาบันการเงินหลายธนาคาร  ไม่ใช่เฉพาะของทหาร จากกรมสวัสดิการทหารบก มีพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านนี้ด้วย

โฆษก กองทัพภาคที่ 3  กล่าวอีกว่า ปกติการกู้เงินกรมสวัสดิการทหารบก ตัวกำลังพลสามารถขอกู้ผ่านผู้บังคับบัญชาของตนเอง หน่วยใครหน่วยมันส่งตรงไปที่กรมสวัสดิการทหารบกได้เลย ซึ่งเป็นไปตามหลักการดำเนินการการช่วยเหลือไปกู้เงิน โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีผู้ค้ำประกัน และผู้บังคับบัญชาตรวจสอบในชั้นต้น กรมสวัสดิการทหารบกจะตรวจสอบองค์ประกอบครบ สามารถกู้ได้เลย

แสดงความคิดเห็น