“กระทรวงพลังงาน” เตรียมจัดงานใหญ่บิ๊กเบิ้ม ! เปิดตัวหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงไฟฟ้าชุมชนในเดือน มี.ค.นี้ โดยเชิญ “ลุงตู่” มาเป็นประธานกดปุ่ม พร้อมมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการที่สนลงทุน และชุมชนเข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า ยืนยันกลุ่ม Quick Win เปิดขายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบภายในสิ้นปีนี้แน่นอน
ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาเห็นชอบหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงไฟฟ้าชุมชนเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจกลุ่ม Quick Win จำนวน 100 เมกะวัตต์ยื่นเสนอก่อนประมาณเดือนมีนาคม นี้ และประกาศผู้ได้รับเลือกในเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นจะมีการปรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกให้เหมาะสมก่อนจะเปิดให้กลุ่มทั่วไป จำนวน 600 เมกะวัตต์ยื่นเสนอต่อไป
ล่าสุดนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายในเดือนมีนาคม นี้ กระทรวงพลังงานจะจัดงานใหญ่เพื่อเปิดหลักเกณฑ์การคัดเลือกโรงไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ โดยจะเชิญพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมกับจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากเข้าร่วม รวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจลงทุน และชุมชนด้วย หลังจากนั้นถึงจะได้เปิดให้ยื่นเสนอโครงการต่อไป
“การเปิดให้ยื่นโรงไฟฟ้าชุมชนทั้งกลุ่ม Quick Win และกลุ่มทั่วไปจะใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกเดียวกัน เพียงแต่กลุ่ม Quick Win จะเห็นเป็นรูปธรรมเปิดจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ก่อนภายในสิ้นปีนี้ เพราะมีโครงการอยู่แล้วสามารถขับเคลื่อนได้เลย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-5 เดือน ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนกลุ่มทั่วไปต้องใช้เวลาในการก่อสร้างจะสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบถัดไปในปี 2564”
อนึ่ง สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ได้ปรับแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว (TIEB) ฉบับใหม่ พ.ศ.2561-2580 ประกอบด้วย 4 แผน ได้แก่ แผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2018) แผนพัฒนาผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 (PDP 2018) แผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ (EEP 2018) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan 2018) โดยได้มีการปรับแผน PDP 2018 ให้สอดรับกับเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนด้วยการเพิ่มโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งสิ้น 1,933 เมกะวัตต์ ตั้งแต่ปี 2563-2567 จากเดิมที่เน้นพลังงานแสงอาทิตย์ปีละ 100 เมกะวัตต์ ได้ปรับแผนมาเป็นการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนแทน รวมจำนวน 1,933 เมกะวัตต์ ตลอดแผนเป็นเวลา 5 ปี กำหนดเสนอขายไฟฟ้าได้ไม่เกินโรงละ 10 เมกะวัตต์