รมต.“สนธิรัตน์”ร่วมเก็บเกี่ยวข้าวแปลงนาพุทธภูมิ นำไปใช้ในพิธีกวนข้าวมธุปายาสเทศกาลมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุที่เมืองนคร

เมื่อเวลา 09.09 น.วันที่ 1 ก.พ. 2563 ที่แปลงนาพุทธภูมิ หมู่ 1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ดร.สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปเป็นประธานในการประกอบพิธีเกี่ยวข้าวในนาพุทธภูมิ เพื่อนำไปคั้นเอาน้ำนมข้าวไปใช้เป็นส่วนผสมหลักในการกวนข้าวธุปายาส เนื่องในเทศกาลวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประเพณี “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุที่เมืองนน” ประจำปี 2563 โดยมี รศ.ดร.รง์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.เขต 7 จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อม ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้หลายจังหวัด และนายสมพงศ์ มากมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นางกฤตษญา ตระบันพฤกษ์ วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนรวมทั้งพระภิกษุ สามเณร รวมหลายร้อยรูป/คนให้การต้อนรับและร่วมในพิธีเกี่ยวข้าวแปลงนาพุทธภูมิ
ซึ่งการเกี่ยวข้าวในแปลงนาพุทธภูมิในครั้งนี้เป็นการเก็บเกี่ยวโดย “แกะ” ซึ่งเป็นอุปกรณ์การตัดร่วงข้าวของชาวภาคใต้เป็นใช้อุปกรณ์ในการเก็บเกี่ยวข้าวและจะเก็บทีละรวงก่อนรวบรวมกันเป็นกำ ( 1 กำมือ)และมัดรวมกันเป็นกำ ๆ ตามแบบโบราณทุกประการ โดยก่อนการเก็บเกี่ยวข้าวพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) ได้ประกอบพิธีทางศาสนาและบวงสรวงพระแม่โพสพ เทพยดาฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเพื่อความเป็นสิริมงคลท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องลงมาจนรอนอบอ้าวค่อนข้างรุนแรง แต่ในขณะที่พระราชวิสุทธิกวีกำลังอ่านคำสรรเสริญเชิญเทพยดา ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้นได้มีลมพัดกรรโชกเอากลุ่มก้อนเมฆจำนวนมากลอยเคลื่อนมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้บริเวณแปลงนาพุทธภูมิร่มรื่น ไปโดยปริยายอย่างน่าอัศจรรย์เป็นที่แปลกใจของผู้ที่ร่วมในพิธี หลังจากนั้น รด.สนธิรัตน์ ได้เก็บเกี่ยวข้าวด้วยตนเองจำนวน 9 รวงนำไปรวบรวมกับรวงข้าวที่ รศ.ดร.รงค์บุญสวยขวัญ และนายสายันต์ ยุติธรรม เก็บเกี่ยว ใส่พานทองถวายให้กับพระราชวิสุทธิกวี เพื่อนำไปใช้ในการทำน้ำนมข้าวเป็นส่วนผสมหลักในพิธีกวนข้าวมธุปายาสในเทศกาลมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุที่เมืองนครศรีธรรมราช ในวันที่ 2 ก.พ. และ 7 ก.พ. 2563 ต่อไป
รศ.ดร.รงค์ บญสวยขวัญ กล่าวว่า งานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นการจัดงานบุญที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา และถือเป็นงานบุญประจำปีของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้กำหนดจัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อนุรักษ์ สืบทอดและทำนุบำรุงซึ่งพระพุทธศาสนา ตลอดทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันมาฆบูชา และจรรโลงไว้ซึ่งความเป็นนครแห่งอารยธรรมที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวข้องยึดโยงกับพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน เพื่อให้เป็นสังคมที่ดี มีคุณธรรม และจริยธรรมอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ได้กำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศาสนสถานต่าง ๆ ทั่วจังหวัด
ซึ่งกิจกรรมที่สำคัญที่คู่กับประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ”คือการกวนข้าวมธุปายาส หรือข้าวทิพย์ ภาษาถิ่นนครศรีธรรมราช เรียกว่า “ข้าวยาคู หรือข้าวยาโค” ที่นางสุชาดา บุตรีกฏุมพี มหาเศรษฐีแห่งบ้านเสนานิคม ต.อุรุเวลา ประเทศอินเดีย ในสมัยพุทธกาล จัดปรุงขึ้นแล้วนำไปถวายพระมหาบุรุษ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชาวบ้านจึงเชื่อว่า ข้าวมธุปายาส เป็นอาหารทิพย์ช่วยให้สมองดี เกิดปัญญาแก่ผู้บริโภค ทำให้ผิวพรรณผ่องใส อายุยืนยาว และเป็นโอสถขนานเอก บันดาลความสำเร็จให้แก่ผู้บริโภคด้วย ชาวนครศรีธรรมราชจะกระทำกันอย่างตั้งใจและยิ่งใหญ่ตามโบราณประเพณี ในปัจจุบันพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และ รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแปลงนาพุทธภูมิ ริมถนนพุทธภูมิ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปลูกข้าวนำเอาน้ำนมข้าวมาใช้เป็นสารตั้งต้นหรือส่วนผสมหลักในการประกอบพิธีกวนข้าวมธุปายาส นอกจากน้ำนมข้าวนาพุทธภูมิแล้วยังมีส่วนผสมเครื่องปรุงข้าวมธุปายาส อื่น ๆ มากกว่า 50 ชนิด มีทั้งพวกพืชผล พืชสมุนไพร ผลไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น ขนุน ทุเรียน จำปาดะ เงาะ พุทรา กล้วย มะละกอ ข้าวโพด ฟักทอง ถั่วลิสงคั่ว เผือก มันเทศ น้ำผึ้งรวง น้ำตาลทราย พริกไทย กานพลู ขิง ข่า งา มะพร้าว เป็นต้น
ส่วนพิธีกวนข้าวมธุปาบาส ในช่วงเทศกาลมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2563 จะประกอบพิธีกวนข้าวมธุปายาส 9 กระทะแรก ณ.ลานหน้ามณฑปหลวงพ่อสมภาร วัดโพธิ์เสด็จ หมู่ 8 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป และอีก 9 กระทะที่ลานวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารในวันที่ 7 กุมภาพันธ์2563 ที่สำคัญที่สุดบรรดาสาวพรหมจรรย์ร่วมกวน“ข้าวมธุปายาส”เป็นปฐมฤกษ์ก่อนที่พุทธบริษัทจะร่วมกวนข้าวต่อเนื่อง 8-10 ชั่วโมงจนแล้วเสร็จ และนำถวายพระภิกษุและแจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชนทั่วไปในช่วงวัน“

แสดงความคิดเห็น