รองแม่ทัพภาคที่ 3 นำเหล่าทหารถวายสักการะวันกองทัพไทย

เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 18 ม.ค. 63  พลตรี จิรเดช   กมลเพ็ชร เป็นประธานในพิธีถวายสักการะ และบวงสรวง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระรูปพระสุพรรณกัลยา บริเวณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง พิษณุโลก วันกองทัพไทยโดยในช่วงเช้ารองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ถวายสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  และถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ซึ่งประดิษฐาน ที่พลับพลา หลัง บก.พัน.สร.4  เวลาต่อมาได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ที่พิพิธภัณฑ์ทหาร กองทัพภาคที่3สำหรับ วันกองทัพไทย และวันกองทัพบก นับตั้งแต่ พ.ศ.2502  รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นวันระลึกถึงวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม และถือเป็นวันที่มีการปรับปรุงการทหารจากการจัดอัตรากำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบันเป็นวันกองทัพไทย   เมื่อ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.2523  ได้ดำริว่า วันกองทัพไทยควรเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่งสำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ  พึงระลึกถึงด้วยความภาคภูมิใจ ปลุกใจให้เกิดความรักและหวงแหนชาติบ้านเมืองและพร้อมที่สละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี ตลอดจนส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ทหาร ทั้งเป็นที่ชื่นชมยินดีของปวงชนชาวไทยอีกด้วย  คณะรัฐมนตรีจึงมีมติกำหนดให้ วันที่25 มกราคม ซึ่งตรงกับวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2524ในส่วนของกองทัพบก เดิมกำหนดให้วันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่กองทัพไทยฉลองชัยชนะ กรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศสโดยกระทำพิธีสวนสนามรับมอบดินแดนในอินโดจีนที่จังหวัดพระตะบอง เป็นวันกองทัพบก ตั้งแต่ พ.ศ.2485 ต่อมาใน พ.ศ.2494 กองทัพบกได้เสนอขอวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำ ยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดีเป็นวันกองทัพบก  ซึ่งผลคำนวณในขณะนั้นตรงกับวันที่ 25 มกราคมพ.ศ.2135  เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า การกระทำยุทธหัตถีครั้งนั้น นับเป็นการยุทธ์ทางบกครั้งยิ่งใหญ่ ชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้รับการกล่าวขวัญและสรรเสริญโดยทั่วไป วันดังกล่าวจึงเป็นวันที่สำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย เป็นวันที่คนไทยพึงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณด้วยความภาคภูมิใจ   สำนักนายกรัฐมนตรีจึงประกาศให้วันที่ 25 มกราคม ของทุกปี เป็น วันกองทัพบกต่อมา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติอนุมัติให้วันที่ 25เมษายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และวันที่ 18มกราคม ของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี  ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถาน  และคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติเสนอ ซึ่งเป็นผลทำให้ประวัติศาสตร์ของวันยุทธหัตถีเปลี่ยนไป ดังนั้น  เพื่อดำรงความมุ่งหมายเดิมในการกำหนดวันที่ระลึกกองทัพไทย และกองทัพบก  รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว กระทรวงกลาโหมและวันกองทัพบก  จากเดิมวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีโดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี  พ.ศ.2550  เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็น