วันที่ 15 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้ง เริ่มส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชาติตระการ คือ น้ำตกชาติตระการ ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ สายน้ำตกที่เคยไหลลงสู่ชั้นล่างมีน้ำไหลลงมาน้อยมาก หรือแทบไม่มีน้ำไหลลงมาเลย ซึ่งแตกต่างจากช่วงหน้าฝนที่มีน้ำไหลหลากลงมาจากเขามาก แต่ปัจจุบันยังพอมีน้ำขังอยู่ชั้นล่างพอสมควรซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเพราะหากยังมีกระแสน้ำไหลลงพื้นราบตลอดเวลา
นายวชิรศักดิ์ นาควัฒนเศรษฐ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ กล่าวว่า ในปีนี้แล้งมาก ทำให้น้ำตกชาติตระการ แทบไม่มีน้ำหลงเหลืออยู่เลย ซึ่งหากเปรียบเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา น้ำตกจะมีให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน จนถึงหน้าฝนกันทีเดียว แต่ปีนี้แทบไม่มีน้ำเลย แต่ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ นั้นก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติที่สวยงามอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่างๆได้เช่นเดิม
สำหรับน้ำตกชาติตระการ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 120 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมากในจังหวัดพิษณุโลก และน่าสนใจแห่งหนึ่ง ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้น ก็มีชื่อที่เรียก แตกต่างกันไป และมีความสวยสดงดงามตามลักษณะของภูมิประเทศ โดยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดพิษณุโลก น้ำจากน้ำตกชาติตระการ เป็นลำน้ำสาขาในลุ่มน้ำน่าน น้ำจะไหลลงสู่ลำน้ำภาคที่ต.ชาติตระการ และไหลลงสู่ลำน้ำแควน้อยที่อ.ชาติตระการ เข้าสู่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ที่อ.วัดโบสถ์ ก่อนที่จะไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำน่าน ที่ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
///////////