สรุปเหตุการณ์ภาวะป่วยผิดปกติของผู้ต้องขังด้วยภาวะไทรอยด์เป็นพิษในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก

สถานการณ์นับจากตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธ.ค. ๖๒ ถึงปัจจุบัน มีผู้ต้องขังเสียชีวิต จำนวน 4 ราย

วันที่ ๒๙ ธ.ค. ๖๒ จำนวน ๑ ราย

วันที่ ๓๐ ธ.ค. ๖๒ จำนวน ๒ ราย

วันที่ ๔ ม.ค. ๖๓ จำนวน ๑ ราย

และในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ ๒๙ ธ.ค. ๖๒ ถึง ๔ ม.ค. ๖๓ มีผู้ป่วยที่มีอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และบางส่วนมีกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ซึ่งเข้าได้กับภาวะไทรอยด์เป็นพิษ จำนวน ๖๙๐ ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวมานอนรักษาในโรงพยาบาลจำนวน ๔๙ ราย (รพ.วังทอง ๒๐ ราย, รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ๕ ราย และรพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวร ๒๔ ราย)

ปัจจุบันการดำเนินการดังนี้

๑. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการให้ รพ.วังทอง เฝ้าระวังการเจ็บป่วย ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยที่ถูกส่งจากเรือนจำ มารับการรักษา และให้ดำเนินการร่วมกับโรงพยาบาลชุมชนอื่น โดยจัดทีมแพทย์ พยาบาล เข้าไปตรวจเชิงรุกในเรือนจำทุกวัน ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันที่ ๕ ม.ค.๖๓ มีการตรวจทั้งสิ้น ๑,๑๔๘ ครั้ง ในจำนวนนี้ได้เก็ตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการจำนวน ๕๕๐ ราย พบว่ามีภาวะไทรอยด์สูง ๔๐ ราย (ทยอยรายงานผลเพิ่ม) โดยผู้ต้องขังที่มีอาการผิดปกติจะได้รับการรักษาทันทีและขณะนี้มีอาการดีขึ้น

๒. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(เรือนจำทั้ง ๓ แห่ง),กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๒ พิษณุโลก,รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก, รพ.วังทอง, รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ลงพื้นที่ลงสอบสวนโรคตรวจพิสูจน์สาเหตุการเกิดอาการผิดปกติ มีการเก็บตัวอย่างอาหารส่งตรวจพิสูจน์ ขณะนี้กำลังรอผลโรงพยาบาลพุทธชินราช ดำเนินการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต จำนวน ๔ ราย กำลังรอสรุปผลอย่างเป็นทางการ

๔. เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก, เรือนจำกลางพิษณุโลกและทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก ได้เฝ้าระวังภาวะอาการแสดง

ของการป่วยดังกล่าวของผู้ต้องขังในเรือนจำ และเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก จะประสานคู่สัญญาการจัดซื้ออาหารดิบในช่วงระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ ให้เข้มงวดในการจัดส่งอาหารดิบมิให้มีการปนเปื้อน โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ ให้ส่งมาลักษณะเป็นชิ้นให้ชัดเจน ไม่มีเศษหมูหรือไก่เจือปน รวมทั้งประสานหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อร่วมสังเกตการณ์ในการตรวจรับอาหารดิบร่วมกัน

๕. วันที่ ๔ ม.ค. ๒๕๖๓ เวลา ๑๗.๓๐ น. ดำเนินการระดมทีมบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลพุทธชินราช, โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ รพ.สต. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๒, โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและจิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ ทำการตรวจวัดชีพจรและซักอาการผู้ต้องขังทุกราย (๓,๔๐๓ ราย) พบว่ามีชีพจรมากกว่า ๑๐๐ ครั้ง/นาที ๖๙๐ ราย ให้ยาเพื่อรักษาทันที และในจำนวนนี้ ได้รับ

การเจาะเลือด ๓๕ ราย พบภาวะไทรอยด์สูง ๒๔ ราย ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อาการดีขึ้น 

  1. เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (EOC) และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด ๕ ม.ค. ๖๓

๗. มีแผนจะนำทีมบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั้งจังหวัด มาดำเนินการเจาะเลือดตรวจหาค่าไทรอยด์ผิดปกติ(TSH)ในผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดทุกราย ในวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๓

วันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๓  เวลา ๑๕.๐๐ น. นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มอบหมาย นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ติดตามและให้กำลังใจผู้ป่วย กรณีเกิดสถานการณ์ผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรงในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ณ โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก จำนวน ๒๔ ราย

สำหรับเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก มีผู้ต้องขังจำนวน 3,317 คน ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก มีผู้ต้องขัง จำนวน 1,008 คน เรือนจำกลางพิษณุโลก 5,165 คน

 

ข้อมูลจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก

…………………………………………………………………………………

แสดงความคิดเห็น