เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 62 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ร.ต.ฉัตรชัย ขำสว่าง อดีตนายทหารที่เคยสังกัด กอ.รมน.จังหวัดพิษณุโลก และ ศปป.4 กอรมน. ได้เดินทางมายื่นหนังสื่อกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายอธิปไตย ไกรราช ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว เพื่อเสนอให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภายหลังทั้งนี้จากหนังสือร้องเรียนของ ร.ต.ฉัตรชัย ขำสว่าง ระบุว่า ตนเคยทำงานอยู่กับ กอ.รมน.จังหวัดพิษณุโลก และ ศปป.4 กอ.รมน. มานาน ทำให้ทราบข้อมูลพื้นที่ป่าที่ถูกนายทุนทางการเงิน ผู้มีอิทธิพลบุกรุกแผ้วถาง ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นจำนวนมาก จึงอยากจะให้มีการตรวจสอบหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าอย่างเด็ดขาด โดยมีพื้นที่ถูกบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าดังนี้ในพื้นที่อำเภอวังทอง บ้านบ่อ หมู่ 3 บ้านห้วยไค้ หมู่ 6 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เป็นสถานีทวนสัญญาณเขาน้ำไค้ ขององค์การโทรศัพท์ ที่ชาวบ้านเรียบกว่า เขาเรด้าร์ มีการบุกรุก 200-300 ไร่ และที่บ้านใหม่พนมทอง หมู่ 11 มีการออกโฉนดในพื้นที่ ประมาณ 300 ไร่ และออกโฉนดบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ซำบอน ประมาณ 500 ไร่สำหรับพื้นที่ อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติโซนC บริเวณป่าต้นน้ำคุบ ห้วยกระติบข้าว เหนืออ่างเก็บน้ำซำรู้ บ้านแก่งไฮ หมู่ 11 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก กว่า 5,000 ไร่ และในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านน้ำดั้น ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก มีการบุกรุกป่าสงวน จำนวน 92 ไร่ ส่วนที่หมู่ 26 บ้านโป่งดินดำ ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พารุโลก มีการบุกรุกสวนป่าไม้สักอีกกว่า 100 ไร่
ในส่วนหมู่ที่ 6 บ้านโคกใหญ่ หมู่4 บ้านห้วยช้างแทง ต.สวนเมี่ยง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มีการบุกรุกพื้นที่ป่า จำนวน 2,500-3,000 ไร่ ในพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 10 บ้านโป่งแค ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จำนวน 150-200 ไร่ และในพื้นที่ หมู่ 10 บ้านถ้ำพระ ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก อีก 2,000-3,000 ไร่