เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 ต.ค.2562 ที่ห้องเก็บศพแผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก นางอำพร นางแย้ม อายุ 51 ปี และ นายอาทิตย์ บุดดาวงค์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นยายและน้าของ ด.ช.รชตะ มูลชาภิรมย์ หรือน้องคิว วัย 3 ขวบ ที่จมน้ำเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 292/7 หมู่ 5 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก ได้เดินทางมารอรับศพของหลานชายพร้อมด้วยญาติพี่น้องที่ทราบข่าวด้วยความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะมีหลานชายเพียงคนเดียว
โดย นางอำพร นางแย้ม ผู้เป็นยายเล่าด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตานองหน้าว่า เหตุการณ์เศร้าสลดใจครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. ของช่วงเช้าวันนี้ ขณะนั้นตนเองออกไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก แล้วกลับเข้ามาที่บ้านพักซึ่งเป็นห้องเช่า โดยมีนายอาทิตย์ บุดดาวงค์ บุตรชาย และเป็นน้าชายของ ด.ช.รชตะ ผู้เสียชีวิต อยู่บ้านกันเพียงสองคน เมื่อตนกลับมาร้องเรียนหลานชายแต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จึงเดินค้นหาจนทั่วบ้านแล้วไปพบว่าหลานชายจมน้ำอยู่ในถังน้ำของห้องน้ำในสภาพหัวทิ่มขาชี้ฟ้า เมื่อตั้งสติได้จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือแต่หลานชายไม่รู้สึกตัว จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถานพร้อมด้วยเจ้าเหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลพุทธชินราชรีบมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมกับทำการปั้มหัวใจอยู่หลายครั้งแต่ชีพจรไม่ตอบสนองจึงนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพุทธชินราช สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตหลานชายเอาไว้ได้จึงเสียชีวิตในที่สุด สร้างความเศร้าใจเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาตนเองเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่วัยแบเบาะ พ่อและแม่ของเด็กแยกทางกันขณะนี้ติดต่อไม่ได้มานานแล้ว ต้องอาศัยอยู่กับยายและน้าในบ้านหลังดังกล่าว และส่งเสียให้เรียนหนังสือเหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป
ขณะที่ นายอาทิตย์ บุดดาวงค์ น้าชาย เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและ ด.ช.รชตะ หรือน้องคิว หลานชาย กำลังเปิดทีวีดูการ์ตูนอยู่ในห้องนอน ตนได้เผลอหลับไปเนื่องจากความเพลียเพราะขายของออนไลน์ดึก ซึ่งปกติวันนี้หลายชายจะไปโรงเรียนแต่เกิดป่วยมีอาการไอและอาเจียนจึงต้องให้หยุดเรียน 1 วัน ซึ่งคาดว่าขณะที่ตนเองเผลอหลับนั้นหลานชายน่าจะเดินไปอาเจียนในห้องน้ำแล้วพยายามเอื้อมมือไปหยิบขันตักน้ำในถังเพื่อล้างปาก จึงทำให้เกิดพลาดหัวทิ่มจุ่มลงไปในถังน้ำและพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จากนั้น นางอำพร นางแย้ม ผู้เป็นยายกลับเข้าบ้านมาพอดีกระทั่งไปพบว่าหลานชายจมน้ำในถังน้ำหมดสติก่อนจะเสียชีวิตดังกล่าว อุบัติเหตุในครั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองไม่ควรปล่อยเด็กเล็กอยู่เพียงตามลำพังและควรดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากนี้จะได้นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.
…………………………………………………………………………