จากกรณี น.ส.นันพิกา เกตุทอง อายุ 41 ปี ถูกนายยี อี่ ไซ่ อายุ 41 ปี ชาวจีน ซึ่งเป็นสามีก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางด้วยการใช้อาวุธมีดฟันที่ศีรษะและใบหน้าจนเสียชีวิต ก่อนจะจับแก้ผ้าเปลือยท่อนล่างแล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้า ก่อนใช้กางเกงในของผู้ตายอุดปากเอาไว้อย่างน่าสยดสยอง จนศพเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งออกมาจากบ้านเลขที่ 56/11 หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ก่อนจะขับรถกระบะหลบหนีไป แล้วเดินทางออกนอกประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยช่วงวานนี้ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา นางลูกจันทร์ เกตุทอง อายุ 67 ปี และ นายภาคภูมิ เกตุทอง อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นแม่และน้องชายของผู้ตายได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุถึงกับร่ำไห้เสียใจที่ลูกสาวถูกสามีฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมารับโทษตามกฎหมายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ย. พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สมเกียรติ บุญมีจิว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ในฐานะเจ้าของคดีเพื่อเร่งสอบปากคำพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งดำเนินการสอบพยานไปแล้วจำนวน 3 ปาก ซึ่งได้ข้อมูลมามากพอสมควรและหมั่นใจในหลักฐานที่สามารถมัดตัวคนร้ายรายนี้ เพื่อขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกออกหมายจับในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ทำร้ายผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย นอกจากนี้ยังต้องประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกองการต่างประเทศ ตำรวจสากล และสถานทูตตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ที่จะนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยให้ได้เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากเรื่องหึงหวงเพราะสามีของผู้ตายมีนิสัยขี้โมโหร้ายและภรรยาเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ส่วนศพของ น.ส.นันพิกา เกตุทอง ผู้เสียชีวิต ทางครอบครัวได้เดินทางมารับศพแล้วที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ เพื่อนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนายังบ้านเกิดที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย
ขณะที่บ้านของผู้เสียชีวิต ในพื้นที่หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นั้นบรรยากาศเช้าวันนี้เงียบเหงา บ้านเปิดไฟรอบบ้านทิ้งไว้และมีสุนัขพันธุ์บางแก้วของผู้เสียชีวิตถูกขังไว้ในกรงภายในบ้าน ประตูบ้านปิดล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา โดยนางธัญญพร พิทยาวงค์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/2 หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อนบ้านที่มักจะไปมาหาสู่กับผู้เสียชีวิตเป็นประจำก็บอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี แต่ช่วงหลังเห็นบ่นบ่อยๆ ว่าปวดท้องมาก ไม่ค่อยได้ขายของ ปกติมีของกินอะไรก็จะหิ้วติดไม้ติดมือมาฝากประจำ ตนและเพื่อนบ้านคนอื่นมีอะไรก็จะแบ่งปันให้กันตลอด ส่วนตัวของหนุ่มจีนสามีของผู้เสียชีวิตนั้นไม่ค่อยได้คุยกัน เขาเป็นคนเงียบๆ ก็ไม่คิดเลยว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ชาวบ้านก็รู้สึกเสียใจ คนรักกันไม่น่าถึงขั้นต้องฆ่าต้องแกงกัน ตอนนี้ตนและเพื่อนบ้านเองก็คอยเดินมาดูหน้าบ้านเผื่อว่า แม่หรือน้องชายของผู้เสียชีวิตจะมา ก็อยากจะบอกให้เขามาทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตให้ตามร่างไปด้วยตามความเชื่อของคนที่นี่ว่าวิญญาณของเขาจะได้ไปเกิดในภพในภูมิใหม่ที่ดีๆ ไม่เร่ร่อน และก็ห่วงสุนัขพันธุ์บางแก้วที่เขาเลี้ยงไว้ 2 ตัว ที่ตอนนี้ขังอยู่กลัวมันจะไม่มีอาหารกินสงสารมัน เพราะเพื่อนบ้านเองก็ไม่กล้าเข้าไปในบ้านจะเป็นการถือวิสาสะเกินไป อีกอย่างสุนัข 2 ตัวนี้ก็ค่อนข้างดุด้วย.
………………………………………………………………