วันที่ 1 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้ในพื้นที่ของ จ.พิษณุโลก ขณะนี้พายุฝนจะหยุดตกแล้วแต่มวลมากจำนวนมากที่หลากมาจากหลายพื้นที่ อาทิ เทือกเขาเพชรบูรณ์ที่ไหลลงสู่ลำน้ำเข็กและแม่น้ำวังทองได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเอ่อเข้าท่วมภายในตลาดวังทอง ซึ่งถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญแห่งหนึ่งก็ว่าได้ ร้านค้าจำนวนมากต่างต้องปิดร้านพากันขนของขึ้นสู่ที่สูงและปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ถนนทางหลวงหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก ช่วงบริเวณหน้าโรงพยาบาลวังทองมีเจ้าหน้าที่ทหารมาคอยอำนวยความสะดวก เรื่องการรับส่งผู้ป่วยเนื่องจากเส้นทางที่เข้าไปยังโรงพยาบาลนั้นมีน้ำท่วมถนนสูงการขับขี่เป็นไปด้วยความยากลำบาก มีน้ำท่วมเต็มพื้นผิวการจราจรและสูงกว่า 50-60 ซม. เป็นระยะทางกว่า 4 กม. ส่งผลทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ต้องเป็นรถบรรทุกหรือรถโฟล์วิวเท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยคอยอำนวยความสะดวกอยู่ริมข้างทาง คอยแจ้งเตือนให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หรือให้เลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นอื่นแทน เช่น ถ้าหากผู้ขับขี่ต้องการเดินทางไปยัง จ.เพชรบูรณ์ อาจจะต้องขับอ้อมไปใช้เส้นทาง อ.วัดโบสถ์ เข้าไป อ.ชาติตระการ แล้วจึงออกมายัง อ.นครไทย
สำหรับในช่วงบ่ายพบว่าปริมาณน้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ หมู่ 7 บ้านวังพรม หมู่ 12 บ้านวังครุฑ ต.วังทอง อ.วังทอง เจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้รถบรรทุกในการเข้าไปรับชาวบ้านที่ติดอยู่ในที่พักอาศัยเข้าออกหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งว่ามีเด็กจำนวน 4 ราย ถูกกระแสน้ำพัดไปติดกับกอไม้ไม่สามารถว่ายกลับเข้าฝั่งได้ ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนกว่า 30 นาย ต้องรีบระดมกำลังกันเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องลุยกระแสน้ำเข้าไปช่วยเด็กทั้งหมดกลับมายังฝั่งได้อย่างปลอดภัยท่ามกลางความโล่งอกของผู้ปกครองที่มาเฝ้ารออยู่ เบื้องต้นทราบว่าเด็กทั้งหมดนั้นได้พากันออกมาเล่นน้ำที่พัดผ่านถนนในหมู่บ้าน แต่ระหว่างที่พากันเดินไปนั้นกระแสน้ำกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยวมาก ทำให้ทั้งหมดถูกน้ำซัดพัดไปติดกับกอไม้ดังกล่าว โชคดีที่ไม่ถูกต้องพัดจมหายไปแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความเดือดร้อนเรื่องอุทกภัยจากพายุโพดุลครั้งนี้ ทางด้านนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันเพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย.
ขณะที่ ระดับน้ำจากแม่น้ำเข็กที่ไหลผ่านสถานีวัดระดับน้ำ N 2A บ้านวังนกแอ่น ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง ได้ผ่านระดับสูงสุดไปแล้ว และกำลังลดระดับน้ำลงต่อเนื่อง โดยจุดสูงสุดที่ไหลผ่านบ้านวังนกแอ่น เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 กันยายน 2562 มีน้ำไหลผ่าน 875 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ระดับความสูง 14.38 เมตร ( ระดับตลิ่ง 11.50 เมตร ) จากนั้น ระดับน้ำที่บ้านวังนกแอ่นได้ลดระดับลงเรื่อย ๆ น้ำได้ไหลลงมายังต.ชัยนาม ต.วังทอง ต.ดินทอง และต.วังพิกุล จนเกิดน้ำท่วมสูงวงกว้างตั้งแต่เช้ากระทั่งเวลา 16.00 น. น้ำยังคงท่วมขังในพื้นที่อ.วังทองเป็นวงกว้างและสูงอยู่ เวลา 15.00 น. น้ำไหลผ่านสถานีบ้านวังนกแอ่นอยู่ที่ 730 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ระดับความสูง 13.72 เมตร และแนวโน้มลดระดับลงต่อเนื่อง ชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมา
อย่างไรก็ตาม ณ เวลา 16.00 น. ยังคงมีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างใน 6 ตำบลของอำเภอวังทอง ได้แก่ ต.วังนกแอ่น ต.ชัยนาม ต.วังทอง ต.ดินทอง ต.วังพิกุล โดยตำบลที่จะได้รับผลกระทบหนักจากมวลน้ำก้อนนี้ในวันนี้และสองวันถัดไปคือตำบลวังพิกุล ส่วนต.ท่าหมื่นราม ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าหลากมาจากตำบลชมพู อ.เนินมะปรา
………………………………………………………………………………..