เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ในช่วงบ่ายสภาพอากาศช่วงบ่ายอากาศดีความชื้นสัมผัสได้ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก พร้อมกับทหารกองทัพภาคที่ 3 ช่วยกันนำสารเคมีทำฝนเทียม 2.1 ตัน ขึ้นเครื่องบินแบบ caravan จำนวน 3 ลำ บินสูงกว่า 10,000 ฟุต โจมตีกลุ่มเมฆแบบรอยต่อพิจิตรกำแพงเพชร ซึ่งพบมีกลุ่มเมฆก้อนใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำปฏิบัติการก่อกวนกลุ่มเมฆก่อน จากนั้นอีก 2 ลำ ก็จะดำเนินการโจมตีกลุ่มเมฆแบบ Sanwich เพื่อให้กลุ่มเมฎ ได้รวมกลุ่มและเกิดปฏิกิริยากลุ่มเมฆทวีความหนาแน่นของเม็ดน้ำขนาดใหญ่ขึ้น และปริมาณมากขึ้นจนตกลงมารวมตัวกันที่ฐานเมฆ ทำให้ใกล้จะเกิดฝนได้ในที่สุด โดยพื้นที่รอยต่อพิจิตร-กำแพงเพชร นี้เป็นแหล่งแม่น้ำปิง ที่ชาวนา อ.โพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ได้รวมตัวมาเปิดประตูกน้ำแม่น้ำปิง เพื่อนำน้ำไปช่วยนาข้าวที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำกว่าหมื่นไร่ แต่ขณะที่แม่น้ำปิงในขณะนี้มีสภาพพื้นเขิน ปริมาณน้ำน้อย บางช่วงก็เห็นดินทราย
นางสาวหนึ่งหทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า หน่วยฝนหลวงที่พิษณุโลกนี้ ได้เริ่มปฏิบัติการมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะย้ายไปปฏิบัติการที่จังหวัดตาก และกลับมาตั้งฐานปฏิบัติการที่จังหวัดพิษณุโลกอีกครั้ง เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขึ้นบินทำฝนหลวงตามพื้นที่ร้องขอ หลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ในจังหวัดพิจิตร ,กำแพงเพชร และจังหวัดเพชรบูรณ์ ไปจำนวน 77 เที่ยวบิน มีฝนตกไปแล้ว 54 วัน จำนวน ทั้งสิ้น 251 เที่ยวบิน เป้าหมายเร่งด่วนขณะนี้ คือ การเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกับในอ่างน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แต่ในฤดูฝนพบอุปสรรคในการทำฝนหลวง คือลมชั้นบนกำลังแรง ทำให้ยอดเมฆไม่สามารถต่อยอดไปได้ ทั้งนี้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ จะเปิดฐานเติมฝนหลวงเพิ่มเติมในพื้นที่จังหวัดแพร่อีกครั้ง
ขณะที่ทางกองทัพภาคที่ 3 นำโดยพลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ไปติดตามการทำฝนหลวง พร้อมสนับสนุนกำลังพลจำนวน 5 นาย ไปช่วยจัดเตรียมสารเคมีและขนย้ายขึ้นอากาศยาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมฝนหลวง ขณะเดียวกันกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่ ทำการศึกษาสภาพลุ่มน้ำในภาคเหนือ เพื่อนำไปวางแผนแก้ไขภัยแล้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในปีหน้า พร้อมกับเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ รัฐบาลได้ขอให้ทุกเหล่าทัพ สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลไปช่วยทำฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน และร่วมแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำกับฝ่ายพลเรือนแบบบูรณาการ
////////////