เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 ที่ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมืองพิษณุโลก พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน การแข่งขันกองทหารเกียรติยศระดับ กองทัพภาคที่ 3 สำหรับคัดเลือกกองทหารเกียรติยศ เป็นตัวแทนกองทัพภาคที่ 3 เข้าแข่งขันในระดับกองทัพบกเนื่องด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราโชบายให้จัดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งกองทัพไทย มีความพร้อมเพรียงเข็มแข็ง สง่างาม และสมพระเกียรติยศ ดังนั้นกองทัพไทย จึงได้กำหนดจัดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ประจำปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อคัดเลือกหน่วยที่ดีที่สุดเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันระดับกองทัพบก และเป็นตัวแทนกองทัพบก จำนวน 2 กองร้อย เพื่อเข้าแข่งขันในระดับกองทัพไทยต่อไปการแข่งขันกองทหารเกียรติยศยึดถือตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการจัดกองทหารเกียรติ พุทธศักราช 2528 โดยหลักปฏิบัติในการแข่งขันเป็นไปตามพระราชนิยมและยึดถือตามหลักปฏิบัติของกองทหารเกียรติยศของหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ โดยแบ่งการปฏิบัติเป็น 3 กรณี เช่น การรับเสด็จกรณีขึ้นแท่นตรวจพล การรับเสด็จกรณีขึ้นแท่นไม่ตรวจพล และการรับส่งเสด็จผ่านในส่วนกองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัด การแข่งขันกองทหารเกียรติยศภายใน กองทัพภาคที่ 3 ประจำปี 2562 ขึ้น เพื่อคัดเลือกหน่วยที่ดีที่สุด เป็นตัวแทนของกองทัพภาคที่ 3 เข้าไปแข่งขันในระดับกองทัพบก โดยให้หน่วยกองพันทหารราบ กองพันทหารม้า และกองพันทหารปืนใหญ่ รวม 27 กองพัน จัดกองทหารเกียรติยศเข้าร่วมแข่งขันในระดับกรม ระดับกองพล และระดับกองทัพภาคที่ 3 ตามลำดับ ในการนี้ ได้มีกองทหารเกียรติยศ ที่ชนะเลิศระดับกองพล และเข้าแข่งขันในระดับกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 3 หน่วย ดังนี้ กองพลทหารราบที่ 4 ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 7 ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17, กองพลทหารม้าที่ 1 ได้แก่ กองพันทหารม้าที่ 13 กรมทหารม้าที่ 2ทั้งนี้ การดำเนินการแข่งขันจะเป็นก้าวสำคัญ ที่ทำให้หน่วยได้แสดงศักยภาพ ที่นอกเหนือจากการปฏิบัติภารกิจในการป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงภายใน และการรักษาความสงบเรียบร้อยแล้ว การถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะแสดงออกถึงความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งจะทำให้หน่วยได้เข้าใจภาพการปฏิบัติ ของกองทหารเกียรติยศรับเสด็จฯ ได้อย่างถูกต้อง