มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดตัวชุดอุปกรณ์ติดตั้งจักรยานไฮบริดไฟฟ้า NU BIKE ปั่นสนุก ทุ่นแรง ประหยัดแบต ประหยัดเงิน เพียง 20 กิโลเมตร ต่อ 1 บาท”
วันที่ 10 มิ.ย.2562 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.อนันต์ อยู่แก้ว หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะผู้วิจัย พร้อมด้วย รศ.ดร.สุชาติ แย้มเม่น คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงข่าว ชุดอุปกรณ์ติดตั้งจักรยานไฮบริดไฟฟ้า NU BIKE หลังคิดค้นวิจัยชุดติดตั้งอุปกรณ์จักรยานไฮบริดไฟฟ้าแบบ Plug in เป็นผลสำเร็จ เพื่อรองรับผู้ที่ต้องการใช้อุปกรณ์พ่วงกับรถจักรยาน คล้ายกับจักรยานไฟฟ้า
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.อนันต์ อยู่แก้ว หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า ว่าสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวขึ้นทุกวันการเดินการเดินทาง สัญจรไปมาในระยะสั้นๆโดยใช้จักรยานธรรมดาไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากต้องการออกแรงในการปั่นตลอด ทำให้ผู้วิจัย ได้พัฒนาอุปกรณ์ชุดติดตั้งอุปกรณ์จักรยานไฮบริดไฟฟ้าแบบ Plug in มาอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปีเต็ม จนกลายเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางในระยะสั้นๆสะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการออกแบบให้ขนาดเล็กกะทัดรัดชุด NU Bike จึงสามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วกับจักรยานหลากหลายยี่ห้อ ทำให้การขับขี่ได้ทั้งหมดช่วยปั่นและโหมดจักรยานไฟฟ้า โดยสามารถใช้งานได้ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อครั้ง
ชุด nu Bike สามารถประจุไฟฟ้าได้จากแผงแผงโซล่าเซลล์หรือประจุจากปลั๊กอินไฟในบ้านได้ จากการใช้อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเพียง 5 สตางค์ต่อกิโลเมตรทำให้สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้า ทำให้สามารถประหยัดพลังงานในการเดินทาง เมื่อเปรียบเทียบในการใช้จักรยานยนต์หรือรถยนต์และมีค่าใช้จ่ายเพียง 1 บาทต่อการประจุแต่ละครั้ง นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมให้พลังงานสะอาดในการเดินทาง รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยไม่ปลดปล่อยฝุ่นละออง PM 2.5 และก๊าซเรือนกระจกซึ่งอนาคตสามารถพัฒนาต่อยอดในการรับรองระบบติดตั้ง Bike Sharing ในพื้นที่สาธารณะอื่นๆต่อไป
โดยชุดติดตั้งอุปกรณ์จักรยานไฮบริดไฟฟ้าแบบปลั๊กอิน ตัวนี้สามารถนำไปติดกับรถจักรยาน เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเสือหมอบ จักรยานจ่ายตลาด หรือ จักรยานแม่บ้าน วีลแชร์ เป็นต้น ทั้งการใช้งานก็สะดวก เพียงชาร์ตไฟครั้งหนึ่งสามารวิ่งได้ถึง 20 กิโลเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสะดวกสบายของการขับขี่รถจักรยาน โดยราคาต้นทุนการผลิตเครื่องนี้เพียงประมาณ 12,000 บาทเท่านั้น ในอนาคตก็จะพัฒนาให้มีขนาดกะทัดรัด และราคาถูกลงต่อไป
///////////