เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.62 พ.ต.ต.บุญญาพาส เพ็งฤกษ์ สารวัตร ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบที่กุฏิภายในวัดคุ้งวารี ม.8 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก หลังจากเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ ภายในกุฏิชั้นล่างได้รับความเสียหาย เพื่อหาหลักฐานของไฟไหม้ครั้งนี้
ทั้งนี้ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ขอเทียม ร้อยเวร สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุว่าเกิดเพลิงไหม้กุฏิภายในวัดคุ้งวารี จึงได้ประสานรถดับเพลิง อบต.ท่าโพธิ์ รุดไปทำการสกัดเพลิง จนสงบลงในเวลาไม่นาน โดยกุฏิที่ถูกไฟไหม้เป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดคุ้งวารี ลักษณะ 2 ชั้น แต่ไฟไหม้อยู่ชั้นล่าง เป็นห้องโถงที่ตั้งพุทธรูปและโต๊ะหมูบูชา ขณะเกิดเหตุไม่มีพระอยู่และปิดประตูหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด
พระมหาวัฒนสิน รัตนชูโต พระลูกวัด เปิดเผยว่า ช่วงประมาณเที่ยงวันนี้ ก่อนเกิดเหตุตนอยู่กุฏิอีกหลังหนึ่ง ได้ยินเสียงดังตูม ได้ออกมามองตามเสียงทางกุฏิเจ้าอาวาส มองเห็นควันลอยดำโขมง จึงรีบวิ่งออกมา พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในกุฏิ ได้ตะโกนเรียกให้คนช่วย โดยมีเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดคุ้งวารีพักเที่ยง ตนเองจึงใช้กุญแจไขเปิดประตูกุฏิเข้าไป ได้ช่วยกันตักน้ำสาดดับไฟกันชุลมุน กระทั่งมีรถดับเพลิง อบต.เข้ามาดับไฟจนสงบลง
พระมหาวัฒนสิน กล่าวว่า กุฏิหลังนี้เดิมมีเจ้าอาวาสจำพรรษาอยู่ แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่วัดอื่นนานเป็นปีแล้ว ทำให้ไม่มีพระอยู่ จึงต้องปิดใส่กุญแจล็อกเอาไว้ แต่ก็เปิดทำดูแลความสะอาดเป็นบางครั้ง ส่วนสาเหตุไฟไหม้ยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพราะไม่ได้มีการจุดธูปหรือเทียนเอาไว้ แต่ระบบไฟฟ้าภายในกุฏิยังมีอยู่เหมือนเดิม ส่วนความเสียหายที่เห็นจะมีโต๊ะหมู่บูชา พระพุทธรูป พัดลม โคมไฟ และสิ่งของที่ตั้งอยู่เสียหายทั้งหมด แต่หลวงพ่อสำริด เนื้อทองเหลือง พระประธานยังอยู่ในสภาพเดิม
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบพบว่า มีสายไฟบนเพดานด้านบน ซึ่งอยู่ตรงหน้าพระประธาน มีร่องรอยการไหม้แตกละลาย จนมองเห็นลวดทองแดงภายใน ก่อนจะหยดลงมาที่พื้น ซึ่งมีพรมและอาสนะปูเอาไว้ จนเกิดกาลุกไหม้ลามไปทั่ว และยังมีกล่องไม้ขีด ธูปเทียนอีกจำนวนหนึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้โต๊ะหมู่บูชาไม้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐาน เพื่อหาข้อมูลการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง
///////////