วันที่ 4 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์สุขภาพเมืองพิษณุโลก ถ.พระองค์ดำ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก โดยในปีนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกได้รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้เร็วขึ้น เพื่อให้มีผลทันต่อการป้องกันก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลระบาดใหญ่ของโรค คือฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายน-กันยายน เพื่อลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ โดยบรรยากาศในวันนี้มีประชาชนในกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุกว่า 300 คนมารับบริการ
บรรยากาศวันนี้มีประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเดินทางมารับบริการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงเช้าจำนวนมากจนเนืองแน่นที่ศูนย์สุขภาพเมือง พิษณุโลก โดยเบื้องต้นกำหนดให้บริการฉีดวัคซีนวันละ 300 คน ไปจนถึงสิ้นเดือนหรือจนกว่าวัคซีนหมด
นายปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่ากระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีนโยบายการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี 2562 ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม โดยจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการสนับสนุนวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว จำนวน 47,151 โด๊ส เป็นวัคซีนชนิดฉีด ผลิตจากเชื้อที่ตายแล้ว โดยผ่านกระบวนการผลิตที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้แต่อาการจะน้อยลง รวม ๓ สายพันธุ์ในวัคซีน 1 โด๊ส คือ สายพันธุ์เอ เอช1 เอ็น1 (A H1N1) สายพันธุ์เอ เอช3 เอ็น2 (A H3N2) และสายพันธุ์บี (B) ซึ่งสามารถฉีดได้ตลอดปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือก่อนฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) และก่อนฤดูหนาว (เดือนตุลาคม) เนื่องจากเป็นช่วงที่เริ่มมีการระบาด อย่างไรก็ดีในกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 กลุ่มเป้าหมายหากป่วยเป็นโรคนี้มักจะมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง อาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากมีภูมิต้านทานโรคต่ำ จึงต้องฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิป้องกัน ซึ่งผลจากการศึกษาวิจัยยืนยัน มีความคุ้มค่ามีประสิทธิภาพในการลดการเจ็บป่วยและการตาย หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามขอรับบริการได้ที่โรงพยาบาลภาครัฐทุกแห่ง
จากการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาจังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีประชาชนจะป่วยเป็นไข้หวัด มากกว่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่แล้ว 2,576 รายแต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ได้สั่งการให้โรงพยาบาล และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกแห่ง ดำเนินการเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง
/////////