พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ สบอ.11 พิษณุโลก สนธิกำลังปิดล้อมบ้านพรานป่าใจเหี้ยมล่าเลียงผาชำแหละเนื้อส่งขายตลาดมืด เป็นพรานป่าที่ออกล่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ไม่พบผู้กระทำผิด เจอปืน อุปกรณ์ดักสัตว์ เนื้อ หนัง เลียงผา
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 19 เม.ย. นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 จ.พิษณุโลก สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จึงได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง , หน่วยป้องกันฯ พล 1 (วังทอง) , ทหาร ชุด ชป.มวลชน มทบ.39 , ผญบ. ม.3 บ้านชมพูเหนือ , สารวัตรกำนันตำบลชมพู ช่วยกันออกค้นหาติดตามกระทั่งทราบว่ามีบ้านหลังหนึ่งอยู่บริเวณทางขึ้นเขางอบใหญ่ เลขที่บ้านเลขที่ 269/3 ม.3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลกสภาพบ้านมุงสังกะสี ด้านข้างใช้ไม้ไผ่ตีปิด จึงได้ดักซุ่มเพื่อรอตรวจค้นเนื่องจากเวลาค่ำคืน แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่พบผู้ต้องสงสัยหรือเจ้าของบ้านกลับมา จึงได้ร่วมกันตรวจสอบบ้านพักหลังดังกล่าว พบชิ้นเนื้อซากสัตว์ป่าวางอยู่ภายในบ้าน จากนั้นได้ตรวจค้นอย่างละเอียดพบอาวุธปืนลูกซองเดี่ยว หมายเลขลบเลือน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด กับดักหนู (ฟ้าลั่น) จำนวน 17 อัน ขนเม่นน้ำหนัก 1 ขีด จำนวน 1 ถุง กระดองตะพาบน้ำ จำนวน 7 กระดอง เนื้อเลียงผาน้ำหนัก 12 กก. จำนวน 1 ถุง หนังเลียงผาน้ำหนัก 7 กก. จำนวน 1 ผืน เศษเนื้อเครื่องในเลียงผาต้มสุก จำนวน 1 หม้อ ข้อเท้าเลียงผา จำนวน 3 อัน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า มีนางดวงจันทร์ สามโพธิ์ศรี อายุ 45 ปี เป็นชาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่อาศัยกับนายชาติ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง พักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว มีพฤติกรรมเป็นพรานป่าชอบเข้าป่าล่าสัตว์อยู่เป็นประจำในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสมาแล้วระยะหนึ่ง คาดว่าของกลางที่พบนั้นจะนำไปขายในตลาดมืด สำหรับผู้ที่นิยมนำไปทำเป็นยาโด๊ปบำรุงกำลังตามความเชื่อส่วนตัว แต่ขณะปิดล้อมตรวจค้นที่เกิดเหตุนั้นไม่พบตัวผู้กระทำผิดแต่อย่างใด คาดว่าอาจจะไหวตัวหลบหนีได้ทัน โดยซากเลียงผาเป็นสัตว์ป่าสงวน ส่วนซากขนเม่นและกระดองตะพาบน้ำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504. ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดทำบันทึกคดีส่งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เนินมะปราง พร้อมจะเร่งสืบหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.