ร้อน ส่งผลดีต่อการผลิตส้มลิ่ม หรือ ส้มแผ่น ของชาวบ้าน อ.วังทอง

วันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสภาพอากาศร้อนระอุ ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่งแต่กลับส่งผลดีให้กับเกษตรกรที่ยึดอาชีพกวนมะม่วงแปรรูปเป็นส้มลิ่ม หรือ ส้มแผ่น ที่ตากแดดแห้งไวขึ้น โดยเฉพาะที่บ้านวังครุฑ ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมะม่วงกวนแปรรูปรายใหญ่ ซึ่งในช่วงนี้ชาวบ้านหลาย 10 หลังคาเรือนจะเร่งมือปลอกมะม่วง ฝานมะม่วง เพื่อแปรรูปเป็นส้มลิ้ม หรือมะม่วงกวนส่งขายในช่วงฤดูกาล


นายสิน คงเมือง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 344 หมู่ 12 บ้านวังครุฑ อ.วังทอง เจ้าของธุรกิจแปรรูปมะม่วง เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ซึ่งเป็นฤดูกาลของมะม่วง ตนได้รับซื้อมะม่วงสุกจากสวนเกษตรกรในพื้นที่ อ.เนินมะปราง โดยรับซื้อทุกสายพันธุ์แบบคละรวม อาทิ พันธุ์เขียวเสวย น้ำดอกไม้ กำปั้น เพชรบ้านลาด และโชคอนันต์ ในราคากิโลกรัมละ 3บาท จากนั้นก็ได้จ้างชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง มาช่วยกันปลอกเปลือก และฝานมะม่วง จากนั้นก็จะนำไปกวนด้วยเตาฟืนเครื่องจักร (มอเตอร์หมุน) ขนาดใหญ่ พร้อมใส่ส่วนผสมคือน้ำตาลทราย และเกลือ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เนื่องจากมะม่วงมีความหวานโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จึงใส่น้ำตาลทรายไม่มาก โดยกวนด้วยกันจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ใช้เวลากวนประมาณ 2 ชั่วโมง นำใส่กะละมังขนาดใหญ่ ทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนที่จะไล้เป็นแผ่น และนำไปตากแดดประมาณ 3 แดด และแพ็คส่งขายในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยในช่วงนี้ผลิตมะม่วงส้มลิ่ม นั้นครั้งละ 3 ตัน ใช้เวล 2 วัน นับได้ว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตมะม่วงที่ราคาตกต่ำในขณะนี้ เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากเกินไป

นางสิน กล่าวต่ออีกว่า ตนเองและครอบครัว ยึดอาชีพทำมะม่วงกวนส่งขายมานานกว่า 20 ปี โดยได้สืบทอดอาชีพนี้มาจากแม่ ประกอบกับปัจจุบันมะม่วงถูก เนื่องจากผลผลิตมะม่วงล้นตลาด จึงซื้อวัตถุดิบผลผลิตมะม่วงได้ถูกกว่าทุกปีที่ผ่านมา การนำมะม่วงมาแปรรูปเป็นส้มแผ่น จึงถือว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต ซึ่งแต่ก่อนจะนำส้มแผ่นไปขายเองที่ตลาด แต่ปัจจุบันจะมีโรงงานแม่ตะเพียน ที่จังหวัดพิจิตรรับซื้อ ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท โดยทางโรงงานจะนำไปผ่านกรรมวิธีอบ อีกครั้ง และแพ็คกิ้งใหม่ ส่งไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ถึงแม้ว่าปีนี้มะม่วงปีนี้จะออกน้อย กว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องระดมหามะม่วงตามบ้านเรือนมาผลิตส่งขาย


/////////////

แสดงความคิดเห็น