เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 62 ที่ห้อง 101 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก พลโทฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 โดยมีผู้แทนกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีอัยการภาคที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีอาวุโสสูงสุด แม่ทัพน้อย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคที่มีอาวุโสสูงสุด ผู้ว่าราชการ อธิบดีอัยการ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้บัญชาการตำรวจ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคง หัวหน้าส่วนราช และผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เป็นกรรมการทั้งนี้ เพื่อร่วมกันเสนอแนวความคิด ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไขปัญหา และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำไปบูรณาการใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีประเด็นข้อหารือ คือ 1.การขับเคลื่อนการดำเนินการโครงการปรับปรุงถนนวงแหวนเชื่อมต่อ4ตำบล อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ 2.ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด 3.โครงการจิตอาสาพระราชทาน 4.การขอคืนพื้นที่ป่าไม้ 5.ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร 6.การปรับปรุงข้อกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ในการดำเนินการบริหารจัดการน้ำชุมชนอย่างเป็นระบบ 7.การปฏิบัติงานด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ตอนในโดยกองอำนวยรักษาความมั่นคงจังหวัด 8.การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ 9.การแก้ไขปัญหาดินจากการขุดลอกบึงสีไฟสำหรับการประชุมในครั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 เล็งเห็นว่า จะก่อให้เกิดประโยชน์เป็นอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนงานให้เกิดผล เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับ จะสามารถนำไปบูรณาการ ใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ ความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชน รวมทั้งการสร้างสภาวะแวดล้อม ที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคม นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนอีกด้วยตามที่ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กรุณาลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 51/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ได้กำหนดให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ด้วยปัจจุบันสถานการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคง ส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, ปัญหาความยากจน, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนภัยสังคมในรูปแบบต่างๆ อีกทั้ง จากการกระทำของบุคคล หรือภัยจากธรรมชาติ อันเป็นสาธารณภัย ซึ่งหากปล่อยไว้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติในอนาคต ดังนั้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อบูรณาการงานด้านความมั่นคงของทุกส่วนราชการ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ตลอดจนเพื่อนำนโยบายของรัฐบาลลงไปสู่การปฏิบัติ โดยกำหนดมาตรการที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่