สสว.ติดปีกธุรกิจSME ภาคเหนือตอนล่างสู่ตลาดออนไลน์ระดับสากล

สสว. จับมือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ติดปีก SME ภาคเหนือตอนล่างเปิดประตูธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์มชื่อดังหวังปลุกความสำเร็จบนตลาดออนไลน์ในระดับสากล

เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 10 มีนาคม 2562 ที่โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก นายวชิระ แก้วกอ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานข้อมูลและสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SME ปี 2562 ภายใต้ชื่องาน COMMERCE : TOGO เปิดประตูธุรกิจภาคเหนือตอนล่างสู่ตลาดออนไลน์ โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจ sme และประชาชน ที่สนใจ ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง กว่า 1000 คน เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้

นายวชิระ แก้วกอ  รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานข้อมูลและสถานการณ์ สสว. กล่าวว่า จากการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สสว.กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการผลักดันผู้ประกอบการในเขตภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ พิษณุโลก , สุโขทัย , เพชรบูรณ์,อุตรดิตถ์ , ตาก,กำแพงเพชร , นครสวรรค์ , พิจิตร และอุทัยธานี ให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านตลาดออนไลน์  ซึ่งได้รวม SME ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจำนวนกว่า 1,000 รายเข้าสู่ตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E – commerce ชื่อดังในระดับสากล สำหรับแพลตฟอร์ม E –  commerce ที่ได้บูรณาการความร่วมมือในโครงการนี้เพื่อสนับสนุนและให้สิทธิพิเศษกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีด้วยกัน 14 แพลตฟอร์ม อาทิ  Lazada / shopee / Thailand mall เป็นต้น ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 80% สามารถเพิ่มโอกาสและสร้างศักยภาพในการแข่งขันบนช่องทางตลาดออนไลน์ในระดับสากลได้อย่างมืออาชีพ

สำหรับโครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ sme  นี้เป็นโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องซึ่งในปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Digital 2 Global  ซึ่งเป็นนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนา sme ไปสู่การเป็น Modernization เพื่อยกระดับผู้เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดออนไลน์ในระดับสากลโดยนับตั้งแต่ปี 2560-2561 มีผู้ประกอบการ SME ที่เข้าร่วมโครงการและได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์แล้วกว่า 100,000 ราย เตรียมความพร้อมในการถ่ายภาพ สินค้าและจัดทำรายละเอียดสินค้ากว่า 265,000 ผลิตภัณฑ์ และสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 20,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการกว่า 450 ล้านบาทและในปีนี้ยังคงระดมความรู้ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในการทำตลาดออนไลน์ในทุกมิติอย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้ประกอบการ 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มผู้ประกอบการที่ยังไม่เปิดร้านค้าออนไลน์  กลุ่มผู้ประกอบการที่มีร้านค้าออนไลน์แล้วและกลุ่มผู้ประกอบการออนไลน์ที่มีศักยภาพ ซึ่งเน้นให้องค์ความรู้ตั้งแต่การเลือกสินค้าและการกำหนดราคาการจัดทำเนื้อหาและภาพสินค้าความชำนาญในการบริหารจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการบริหารจัดการ

โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามข่าวสาร หรือสมัครเข้ารับการอบรมด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น SMEconnext หรือ เว็ปไซด์ www.smeonline.info

แสดงความคิดเห็น