สามีจุดไฟเผาร่างภรรยาอาการสาหัสเข้ามอบตัวตำรวจเจอตั้งข้อหาหนัก

พิษณุโลก สามีหึงโหดน้ำมันราดจุดไฟเผาร่างภรรยาบาดเจ็บสาหัส เข้ามอบตัวกับจนท.ตร.สภ.เมืองพิษณุโลก อ้างไม่ได้ตั้งใจ แต่มีปากเสียงที่มีชายอื่นซื้อเสื้อให้ จึงนำน้ำมันใส่ขวดพร้อมกับจุดไฟแช็คขู่ ก่อนจะมีการยื้อแย่งกันจนน้ำมันหกไปโดนตัวของภรรยาและมือทั้งสองข้างของตนเอง เจอข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Satijaree Insakorn ได้โพสต์เรื่องราวขอความช่วยเหลือหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งถูกสามีราดน้ำมันจุดไฟเผาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลพุพองทั่วใบหน้าและร่างกาย ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหน้าบ้านพักเลขที่ 91/2 หมู่ 7 บ้านหนองหญ้าม้า ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่หญิงสาวเคราะห์ร้ายรายนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลพุทธชินราช ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.อริสสา  ปั้นประเสริฐ อายุ 27 ปี ส่วนสามีที่ก่อเหตุทราบชื่อ คือ นายวัชระ  ขลุ่ยนาค อายุ 33 ปี หลังเกิดเหตุ น.ส.สมัย  เจ็ดรัมย์ อายุ 47 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วิชัย  พรมรักษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ก่อนออกหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ 85/2562 ลงวันที่ 6 มี.ค.2562  ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 มี.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ  ขลุ่ยนาค อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.วิชัย  พรมรักษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุตนเองและภรรยามีปากเสียงกันเรื่องหึงหวง เนื่องจากพบว่าเสื้อตัวใหม่ที่ภรรยาสวมใส่อยู่นั้นมีผู้ชายซื้อให้ ด้วยความโกรธจึงนำน้ำมันใส่ขวดพร้อมกับจุดไฟแช็คขู่ ก่อนจะมีการยื้อแย่งกันจนน้ำมันหกไปโดนตัวของภรรยาและมือทั้งสองข้างของตนเอง จากนั้นก็เกิดประกายไฟลุกลามติดทั่วร่างของภรรยาจนดิ้นทุรนทุราย ซึ่งญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือกันดับไฟให้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพของอบต.ปากโทก เพื่อมารับตัวนำส่งยังโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุตนไม่ได้หลบหนีไปไหนและยังไปเยี่ยมดูอาการภรรยาทุกวัน พร้อมอยากขอโทษภรรยาเนื่องจากไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายถึงเพียงนี้ เพราะโกรธหึงหวงและรักภรรยามากจนอยู่กินมีลูกด้วยกันถึง 3 คน แต่เมื่อเป็นคดีอาญาแล้วก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมาย ตอนนี้ก็เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 91/2 หมู่ 7 บ้านหนองหญ้าม้า ต.ปากโทก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นบ้านพักที่เกิดเหตุ พบกับนายมนัส  ขลุ่ยนาค อายุ 62 ปี และ นางชวาลา  โฉมโสธร อายุ 58 ปี พ่อและแม่ของนายวัชระ  ขลุ่ยนาค ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุขณะกำลังขายของอยู่หน้าบ้านพัก สังเกตเห็นลูกชายและลูกสะใภ้มีปากเสียงทะเลาะกัน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ยืนยันว่าบุตรชายไม่ได้ตั้งใจทำร้ายแฟนสาวแต่เป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากมีการยื้อแย่งกันจนน้ำมันหกรดราดตัวทั้งคู่ ทำให้ถูกไฟไหม้ที่มือทั้งสองข้างของลูกชายและไหม้ใบหน้าของลูกสะใภ้ ด้วยความตกใจญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้ามาช่วยกันดับไฟ พร้อมกับหาว่านหางจระเข้มาทาถูเพื่อบรรเทาอาการในเบื้องต้น ส่วนที่มีผู้นำรูปภาพและข้อความไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กกล่าวหาว่าลูกชายตั้งใจจุดไฟราดน้ำมันภรรยานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัวตนเองได้ดูแลเอาใจใส่ลูกสะใภ้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ก็รักกันมากแต่ก็อาจจะมีปากเสียงทะเลาะหึงหวงกันบ้างตามประสา หลังเกิดเหตุก็ได้ไปเยี่ยมดูอาการด้วยความเป็นห่วงเป็นใยทุกวัน อาการดีขึ้นบ้างแล้วแต่ยังไม่สามารถพูดคุยได้ มีการรับรู้ตอบสนองดี ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ขอยืนยันว่าลูกชายรักภรรยามากจนทุกวันนี้มีลูกด้วยกันถึง 3 คน เป็นผู้ชาย 2 คน และเป็นผู้หญิงคนเล็ก 1 คน ทั้งนี้พอมีการแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบถูกต่อว่าต่างๆ นานา จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตนเองบ้าง.

……………………………………………………………………………….

แสดงความคิดเห็น