วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ศาลปกครองพิษณุโลก อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เป็นตัวแทนชาวบ้านตำบลหัวรอ 20 ราย นำเอกสารเข้ายื่นฟ้องเทศบาลตำบลหัวรอ ออกใบอนุญาตให้เอกชนมาเปิดบ่อขยะแบบฝังกลบในพื้นที่ม.11 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก โดยไม่ถูกต้อง การประชาคมรับฟังความเห็นจากชาวบ้านไม่ครบถ้วน
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า วันนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน มายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก เนื่องจากความเดือดร้อนและความเสียหายของชาวตำบลหัวรอ อำเภอเมือง พิษณุโลกได้รับความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวรอ ได้ใช้อำนาจในการอนุญาตให้เอกชนนำขยะมูลฝอยของเทศบาลตำบลหัวรอและของเทศบาลนครพิษณุโลกเข้ามาทิ้ง ปริมาณวันละ 120 ตันต่อวัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เนื่องจาก แวดล้อมไปด้วยชุมชน หมู่บ้านจัดสรร รวมทั้งอยู่ใกล้วัดบ่อทองคำ ซึ่งมีระยะห่างประมาณ 70 เมตรเท่านั้นเอง และพื้นที่ดังกล่าวอยู่กลางท้องทุ่งนา เป็นพื้นที่น้ำท่วมถึง การดำเนินการจัดการฝังกลบขยะในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงที่ถูกน้ำท่วมอย่างนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และขัดต่อประกาศต่อกรมควบคุมมลพิษ และ ประกาศของกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเรื่องขยะโดยชัดเจน การดำเนินการดังกล่าวของนายกเทศมนตรีเทศบาลำบลหัวรอ จึงเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบโดยกฎหมาย
นอกจากนั้นการดำเนินการให้มีการจัดการฝังกลบขยะหรือ มีการจัดการขยะใดๆ จะต้องไปเปิดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความเห็นของประชาชน ปี 2548 แต่ว่านายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวรอ กลับไปรับฟังความคิดเห็นในการจัดการขยะในรูปแบบอื่น เป็นการจัดการขยะแบบ RDF ซึ่งไม่เกี่ยวกับการทำขยะแบบกลบฝังในแบบปัจจุบัน จึงเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บิดเบือนจากการรับฟังความเห็น จึงไม่สามารถที่จะยอมรับได้ ขณะนี้ก็มีการนำขยะมาทิ้ง มีการดำเนินการทางเทคนิควิศวกรรมไม่แล้วเสร็จ จึงก่อให้เกิดปัญหา กลินเหม็น เดือดร้อนรำคาญแพร่กระจายไปทั่วพื้นที่ของชุมชนเดินรอบชาวบ้านโดยรอบ มีความเดือดร้อนได้รับความเสียหาย แม้ว่าจะได้ไปร้องเรียนยังหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยาให้ดีขึ้น ชาวบ้านจึงไปร้องเรียนขอให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนช่วยมาเป็นธุระในการฟ้องร้องดำเนินคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การเพิกถอน ใบอนุญาตในการประกอบการฝังกลบขยะในพื้นที่ตำบลหัวรอ
อนึ่ง บ่อขยะแบบฝังกลบในพื้นที่หมู่ 11 ตำบลหัวรอ อำเภอเมืองพิษณุโลก มีพื้นที่ 17 ไร่ เทศบาลตำบลหัวรอ ออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 ดำเนินการเริ่มนำขยะจากเทศบาลตำบลหัวรอและเทศบาลนครพิษณุโลกมาทิ้งตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2561 นายนพคุณ แถมพยัคฆ์ นายกเทศมนตรีหัวรอ ระบุว่ามีการออกแบบโดยวิศวกรสุขาภิบาล ได้รับคำแนะนำจากสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี นำขยะมาทิ้ง นำดินมากลบมีการฉีด EM ทุกวัน ขยะบ่อนี้สามารถทิ้งได้ไม่เกิน 2 ปีก็จะเต็ม ขณะที่การคัดค้านของชาวบ้านนั้น เริ่มคัดค้านมาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2561 รวมตัวไปยื่นคัดค้านการดำเนินการบ่อขยะต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก มณฑลทหารบกที่ 39 และสำนักนายกรัฐมนตรีขอให้มีการปิดบ่อขยะชั่วคราวและมีการทำประชาคมใหม่ กระทั่งวันที่ 27 มกราคม 2562 มีการประชุมร่วมกันทั้งสอง ทั้งฝ่ายที่ได้รับผลกระทบและฝ่ายบริหารของเทศมนตรีตำบลหัวรอ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะ ได้บทสรุปเบื้องต้นว่าจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกตั้งกรรมการมาตรวจสอบบ่อขยะร่วมกัน กระทั่งวันนี้ ได้มาฟ้องต่อศาลปกครองพิษณุโลก ขอให้นำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาต ในการประกอบการฝังกลบขยะในพื้นที่ตำบลหัวรอ
……………………………………….
@ 27 ม.ค. 62 ชาวบ้านขอปิดบ่อขยะในต.หัวรอชั่วคราว ชง.ผู้ว่าฯตั้งกรรมการร่วมตรวจสอบ