เมื่อเวลา 09.00 น. ของ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ห้องประชุม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก นายชัชพงศ์ เอมะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 1/2562 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมแก้ปัญหาแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่กำลังเกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้
เบื้องต้นนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มีคำสั่งประกาศให้มีการเตรียมรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน และกำหนดเขตควบคุมป่าท้องที่พิษณุโลก แล้ว เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งของทุกปีระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน มักเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าทั่วไป พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ดิน พื้นที่ริมสองข้างทางถนนสายหลักและสายรอง และพื้นที่ชุมชน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า ทรัพย์สินราชการและประชาชนบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งทำให้เกิดปัญหาหมอกควันส่งผลกระทบต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชนเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอาจเกิดอุบัติเหตุจากการที่หมอกควันบดบังทัศนวิสัยในการคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ รวมทั้งเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจเช่นการท่องเที่ยว
จังหวัดพิษณุโลกได้พิจารณาเตรียมรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน รวมทั้งเฝ้าระวัง ระงับป้องกันความเสียหายจากไฟป่า ทั้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าทั่วไป พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ริมสองข้างทางถนนสายหลักและสายรอง พื้นที่ชุมชนในท้องที่จังหวัดพิษณุโลกตลอดจนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า จึงกำหนดให้พื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นเขตควบคุมไฟป่า โดยให้หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกหน่วยงานปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีในการงดเผาทุกชนิดในพื้นที่รับผิดชอบ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคุมการเผาทุกชนิด ทั้งในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ พื้นที่รกร้างว่างเปล่า พื้นที่สาธารณะ พื้นที่สองข้างทางข้างทาง พื้นที่ชุมชน รวมทั้งการเผาขยะกิ่งไม้ใบไม้ตามบ้านเรือนและการควบคุมไฟป่าโดยถือเป็นภารกิจสำคัญและเร่งด่วน ให้โอกาสธุรกิจและหน่วยงานที่มีการอนุญาตก่อสร้าง ให้ควบคุมฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง การขุดดิน ถมดิน และขนส่งพัสดุอย่างเคร่งครัด พร้อมให้กำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำชุมชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดเผาทุกชนิด กำจัดขยะจากบ้านเรือนโดยคัดแยกขยะหรือทำปุ๋ยหมักแทนการเผา
พร้อมทั้งให้นายอำเภอทั้ง 9 อำเภอ ตั้งศูนย์รับเรื่องราวและแจ้งเหตุการณ์เกิดไฟป่าในพื้นที่ โดยให้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง หากเกิดปัญหาไฟป่า ก็ให้เข้าไปแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทั้งประกาศเตือนประชาชนห้ามจุดไฟเผาป่าและพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมถนนสายหลัก หากพบว่ามี การแอบจุดไฟเผาป่าหรือปล่อยให้ไปลุกลามเข้าไปยังพื้นที่ที่มีแต่ผ้าป่าตามธรรมชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทจนถึง 15,000 บาท การจุดไฟเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตร ความผิดมาตรา 74 โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดแจ้งเบาะแสผู้เข้าป่า เผาวัชพืช หรือผู้ฝากตามประกาศนี้เป็นเหตุทำให้เกิดไฟไหม้ป่าจนสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้ จะได้เงินสินบนนำจับคดีละ 10,000 บาท หรือแจ้งเหตุ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก โทร 055-322631.
////////