เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 มกราคม 2562 นายสรสิทธิ์ สังขะพงษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งจาก นายบุญเหลือ กองแอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านม่วงหอม ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ว่ามีชาวบ้านได้พบจระเข้ภายในสวนทุเรียนที่ปลูกไว้หลังบ้านเลขที่ 246/1 บ้านม่วงหอม ต.แก่งโสภา อ.วังทอง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของ นายพนัส พรหมมาอินทร์ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าบ้านร่วมกับชาวบ้านที่ทราบข่าวและเดินทางมายืนมุงดูจระเข้ตัวดังกล่าว โดยนายพนัสได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูจระเข้ตัวดังกล่าวที่นอนอยู่ภายในสวนทุเรียนหลังบ้าน สภาพถูกมัดปากด้วยยางวงสีเขียว สภาพดุร้าย จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าเป็นจระเข้พันธุ์น้ำจืด เพศเมีย อายุประมาณ 1-2 ปี วัดความยาวตั้งแต่หัวถึงปลายห่าง ยาว 149 ซม. ความกว้างลำตัว 18 ซม. น้ำหนัก 4.5 กก. มีนิสัยดุร้ายส่งเสียงขู่และใช้หางฟาดไปมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมายืนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม นายพนัส พรหมมาอินทร์ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนกำลังจะออกไปดูสวนทุเรียนที่ปลูกไว้หลังบ้าน เมื่อเดินเข้าไปในสวนก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า ครั้งแรกคิดว่าเป็นตัวเงินตัวทอง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าเป็นจระเข้ ที่อยู่ในอาการดุร้ายกำลังใช้หางฟาดไปมาและขู่คำรามเสียงดัง ไล่ทำร้ายสุนัขที่เข้าไปใกล้ๆ ซึ่งการพบจระเข้ในบริเวณหมู่บ้าน มีชาวบ้านพบเห็นบ่อยมาก โดยเฉพาะที่ ม.4 บ้านเขาน้อย และม.5 บ้านม่วงหอม โดยก่อนหน้านี้ก็มีการพบจระเข้มามากถึง 6 ตัว แล้วรวมกับตัวนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจระเข้หลุดออกมาเพ่นพ่านตามแหล่งน้ำในชุมชนบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านไปวางเบ็ดก็มีจระเข้มากินปลาที่ใช้ล่อเหยื่อ และสามารถจับจระเข้มาได้ถึง 3 ตัว ในระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้ จนชาวบ้านที่ออกไปหาสัตว์น้ำและเด็กในหมู่บ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา เกรงว่าถ้าหากลงไปเล่นในน้ำอาจถูกจระเข้กัดได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต และเมื่อเช้าเมื่อมาพบตัวนี้จึงจึงรีบแจ้งให้ทาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ออกประกาศแจ้งเตือนทางเสียงตามสายในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในระยะนี้ ส่วนจระเข้ที่พบตัวล่าสุดนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบเพื่อจะรับตัวไปและจะตรวจสอบอย่างระเอียดอีกครั้งว่าเป็นจระเข้ที่หลุดมาจากฟามร์ในระแวกนั้นหรือไม่อย่างไร
ด้าน นายสรสิทธิ์ สังขะพงษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมารับจระเข้ตัวดังกล่าว ไปทำการอนุบาลที่สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก และจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แก่งโสภา เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมประมง พร้อมทั้งจะติดประกาศเป็นเวลา 7 วัน เพื่อหาเจ้าของจระเข้ว่าหลุดมาจากฟาร์มหรือไม่ หากไม่พบว่ามีผู้ใดมาแสดงตนก็จะส่งจระเข้ไปไว้ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงจระเข้น้ำจืด สำนักงานประมง จ.พิจิตร ต่อไป.
//////////////