เมื่อเวลา 15.44 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2561 ร.ต.อ.คณพต อินทุภูติ พนักงานสอบสวน สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งพุ่งชนประสานงากับรถยนต์รถบรรทุกหกล้อ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา จุดเกิดเหตุบริเวณถนนสาย พิษณุโลก-หล่มสัก หลักหลักกิโลเมตรที่ 278ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก 
ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ญย-8624 กรุงเทพมหานคร และพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ติดอยู่ภายในรถ 2 ราย อีก 2 เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำตัวส่งยังโรงพยาบาลวังทอง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ติดอยู่ในรถ ถูกอัดก๊อบบี้ติดอยู่หน้ารถมีรูปร่างอ้วนน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 150 กิโลกรัม ทั้งคู่ร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ในรถเจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าดำเนินการตัดชิ้นส่วนรถและเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมาจากซากรถอย่างระมัดระวัง 
โดยทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ต่อมาคือ นาย ณัฐพงษ์ รัตนะ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่34/1 หมู่ที่ 6 ต. นครสวรรค์ตก อ. นครสวรรค์ตก จ. นครสวรรค์ เป็นผู้ขับขี่ และนายวชิระ รัตนะ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่34/1 หมู่ที่ 6 ต. นครสวรรค์ตก อ. นครสวรรค์ตก จ. นครสวรรค์ นางสาว นริศรา อินตาโย อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ที่ 2 ต.นาแก อ.งาว จ.ลำปาง อีกรายคือ ด.ช.ธงชัย รัตนะ อายุ 13 ปี บ้านเลขที่34/1 หมู่ที่ 6 ต. นครสวรรค์ตก อ. นครสวรรค์ตก จ. นครสวรรค์ ทั้งหมดเจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลวังทอง ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถ บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน 81-6157 จังหวัดศรีสะเกษ สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย ส่วนคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงลงเนิน สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าขณะเกิดเหตุ รถเก๋งคันดังกล่าวกำลังขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองพิษณุโลก ด้วยความเร็ว และเมื่อมาจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางบีบเหลือ 1 ช่องทาง จึงทำให้รถติดช่วงดังกล่าว ซึ่งเป็นเวลาเดียวที่รถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วจะลงเนิน จึงหักรถออกทางด้านขวา เพื่อหลบรถที่ติดอยู่ด้านหน้า เป็นจังหวะเดียวกับรถบรรทุก 6 ล้อวิ่งสวนขึ้นมา จึงพุ่งเข้าชนกันอย่างจังเสียงดังสนั่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้ขับขี่ทั้ง 2คันอีกครั้งอย่างระเอียดเพื่อหาสาเหตุของการณ์เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ และเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.