เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก มีประชาชนทั้งในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.นครไทย จำนวนกว่า 20 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนหลังจากนำที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เมื่อนำเงินไปใช้หนี้พร้อมขอไถ่ถอนคืนโฉนดกลับถูกบ่ายเบี่ยง แถมให้ใช้หนี้เป็นเงินอีกเท่าตัวเนื่องจากการทำสัญญาที่ไม่ชอบมาพากล ซึ่งรวมเป็นเงินที่มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยจำนวนกว่า 100 ล้านบาท
ด้าน น.ส.นภัสวรรณ อินทร์มลเทียร อายุ 44 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกหนี้ของนายทุนเงินกู้นอกระบบ เปิดเผยว่า ตนเองต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ จึงนำทรัพย์สินเป็นที่ดินจำนวน 26 แปลง พร้อมอาคารพาณิชย์ไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบรายหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก เป็นเงินจำนวน 15 ล้านบาท แต่สัญญากลับทำเผื่อไว้ 35 ล้านบาท เพราะนายทุนให้เหตุผลว่าหากต้องการเงินอีกก็สามารถมาเอาเพิ่มได้ตลอดเวลา แต่เมื่อกลับมาขอรับเงินเพิ่มเพื่อไปลงทุนกลับไม่ให้ และบ่ายเบี่ยงไม่ทำตามสัญญาที่ได้ทำไว้ ที่ผ่านมาตนเองได้มีการชำระเงินกู้มาตลอดพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 เป็นจำนวนเงิน 18 ล้านบาท จึงขอไถ่ถอนโฉนดที่ดินคืนแต่ก็ไม่ได้ แถมยังหลบหนีหายไปติดต่อไม่ได้ ทั้งยังต้องมารับผิดชอบเงินกู้จำนวน 35 ล้านบาท ทั้งที่กู้เงินมาใช้จริงแค่เพียง 15 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ยังมีลูกหนี้รายอื่นๆ ก็โดนกระทำลักษณะเดียวกันกับตนเอง บางรายมีหนี้สิ้นพอกพูนเพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านบาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อนทุกข์ใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ขณะที่ นางสนม บัวโคก อายุ 47 ปี ชาว อ.นครไทย กล่าวว่า ตนเองก็ได้รับความเดือดร้อนจากการนำที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบในพื้นที่ อ.นครไทย โดยนำที่ดินจำนวน 6 ไร่ ไปจำนองไว้เป็นเงิน 1 แสนบาท แต่กลับถูกทำสัญญาไว้เป็นเงิน 3 แสนบาท เพราะเจ้าหนี้ให้เหตุผลเช่นเดียวกับลูกหนี้คนอื่นๆ ว่าทำสัญญาเงินกู้ไว้เผื่อเลยทีเดียวหากต้องการใช้เงินเพิ่ม สุดท้ายเมื่อปี 2559 ตนเองหาเงินมาได้จำนวน 2 แสนบาท นำไปใช้หนี้สินที่ได้กู้ยืมมา แต่นายทุนเงินกู้ยืนยันว่าต้องนำเงินมาคืนเท่าที่ทำสัญญาไว้ คือ 3 แสนบาท ทั้งที่ตนเองได้เงินมาใช้ไม่เต็มจำนวนดังกล่าวเลย เหมือนว่าถูกโกงที่ดินไปดื้อๆ ทวงถามไปหลายครั้งก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด จะหันไปพึ่งหน่วยงานใดก็ไม่มีใครช่วยเหลือ วันนี้จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรมที่ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อหวังว่าจะได้รับโฉนดที่ดินคืนกลับมา
เบื้องต้น พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.ภ.6 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ รอง ผบช.ภ.6 มารับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมเปิดห้องประชุมสอบถามข้อมูลในแต่ละราย เนื่องจากตามนโยบายรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ที่ผ่านมา ตร.ภ. 6 ได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม หรือนายทุนที่ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด มีการเอารัดเอาเปรียบ หรือพฤติการณ์ฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุดต่อไป.
………………………………………………………………………………………………………………..