หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ปลุกกังหันน้ำโบราณ ใจกลางอุทยานฯให้ฟื้นคืนชีพ ให้สามารถกลับมาตำข้าว และผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งไปยังโรงเรียนการเมืองได้อีกครั้ง เหมือนเมื่อสมัยที่พรรคคอมมิวนิตส์ใช้เป็นฐานที่มั่น หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา เมื่อปี 2519 หรือเมื่อ 42 ปี ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดท่องเที่ยวกังหันน้ำ หน้าโรงเรียนกลางเมือง ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า นายบุญช่วย ชุนหกิจ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ กำลังเร่งมือซ่อมแซมกังหันน้ำโบราณ ที่บรรดา นิสิต ม.จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ได้ประดิษฐ์ไว้ จนนับได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ทางวิศวกรรม ที่ทันสมัยที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อ 42 ปีที่ผ่านมา
นายบุญช่วย ชุนหกิจ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ได้บอกว่า กังหันน้ำ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนการเมืองการทหาร ใช้หล่อเลี้ยงคนหลายพันคนบนภูหินร่องกล้า สมัยเมื่อ 42 ปีที่ผ่านมา ออกแบบและสร้างโดยนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่หนีเข้าป่าภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 กังหันน้ำนี้ใช้พลังน้ำขับเคลื่อนกังหันเพื่อหมุนแกนครกกระเดื่องตำข้าวซึ่งเปรียบเสมือนเป็นโรงสีข้าวของ ผกค. โดยไม่ต้องใช้แรงคน เพื่อใช้เป็นอาหารประทังชีวิต
นอกจากนี้ยังกังหันน้ำแห่งนี้ยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ส่องสว่าง จนกระทั่งในเวลาต่อมาทางรัฐบาลประกาศให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเข้ามอบตัวโดยละเว้นโทษ และมอบพื้นที่ทำกิน เพื่อร่วมพัฒนาชาติไทย จากนั้นกังหันน้ำแห่งนี้ก็กลายเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำทางประวัติศาสตร์ จนกระทั่งสถานที่แห่งนี้ได้ถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าในเวลาต่อมา กังหันน้ำโบราณจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
นายบุญช่วยฯ ได้บอกอีกว่า กว่า 40 ปีที่ผ่านมา กังหันน้ำก็เริ่มชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จนไม่สามารถหมุนได้มานานกว่า 10 ปี ถึงแม้ว่า จะมีการซ่อมแซมอยู่เสมอ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาตำข้าวหรือผลิตกระแสไฟฟ้าได้เหมือนเดิม กลายเป็นเพียง กังหันโบราณที่หยุดนิ่งเพียงเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูปเท่านั้น วันนี้ตนจึงมีความคิดที่ว่า อยากให้กังหันน้ำกลับมาหมุนได้อีกครั้ง ตำข้าวได้ ผลิตกระแสไฟฟ้า ได้เหมือนเดิม เหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีตที่ผ่านมาได้ เพราะจุดท่องเที่ยวบริเวณกังหันน้ำแห่งนี้ เป็นจุดที่สำคัญ ที่บรรดานักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ต้องแวะมาเดินเที่ยว เพราะนอกจากจุดนี้จะน้ำตกสวยงามให้เที่ยวชม ยังมีกังหันน้ำโบราณ ที่นักท่องเที่ยวมักจะถามว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นได้ยังไง และไม่คิดว่ามันจะสามารถกลับมาใช้งานได้จริงๆ ตนจึงอยากจะปลุกกังหันน้ำโบราณแห่งนี้ให้ฟื้นคืนชีพ กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และให้ผลิตไฟฟ้าขึ้นไปส่องสว่างที่บริเวณโรงเรียนการเมืองให้ได้
ซึ่งขณะนี้ได้เกณฑ์เจ้าหน้าที่ช่างของอุทยานฯ เข้ามาซ่อมแซมบริเวณเฟืองของกังหันน้ำให้กลับมาหมุนได้ ซ่อมแกนของกังหันน้ำที่ยื่นออกไปให้สามารถตำข้าวได้ และซ่อมไดร์ฟปั่นไฟให้สามารถกลับมาส่องสว่างได้อีกครั้ง โดยจะดึงไฟไปใช้บริเวณโรงเรียนการเมือง ให้มีแสงสว่างให้ได้ ขณะนี้การซ่อมแซมแล้วเสร็จไปกว่า 50% แล้วคาดว่าอีกไม่เกิน 1 เดือนจะแล้วเสร็จ ทันฤดูกาลท่องเที่ยวปีใหม่นี้อย่างแน่นอน