รอยพระบาทตามความเชื่อของกลุ่มผู้ที่ศรัทธาที่เรียกกัน รอยพระบาทที่ประทับอยู่ในป่าลึกของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้านั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาเป็นที่รู้จักหลายปีแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะเข้าไปถึงได้สะดวก เนื่องจากที่จุดที่ตั้งของรอยพระบาทนั้นไม่ได้อยู่ในเส้นทางเดินป่าท่องเที่ยวที่อุทยานฯจัดให้ แต่อยู่ในป่าลึก และคนที่จะนำทางเข้าไปก็มีน้อย อีกประเด็นสำคัญคือ ต้องประสานทางหัวหน้าอุทยานฯ เพื่อทำการขออนุญาต และจัดเจ้าหน้าที่อุทยานฯดูแลให้ถูกต้องด้วย
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61ที่ผ่านมานายมนัส สีเสือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของภูหินร่องกล้าซึ่งเป็นคนเก่าและเป็นคนในประวัติศาสตร์ที่เคยปฏิบัติงานทางการทหารในพื้นที่ภูหินร่องกล้ามาก่อน และเป็นผู้ที่รู้เส้นทางที่จะเข้าไปสู่รอยพระบาทนี้ ได้นำทางคณะผู้ที่เลื่อมใสและติดตามรอยพระบาทจากจังหวัดอุทัยธานีและพระผู้ใหญ่จากวัดท่าซุง เดินเท้าทางเข้าไปสักระบูชารอยพระบาทดังกล่าว
นายมนัส สีเสือ จึงได้รายงานให้กับให้กับนายบูญช่วย ชุนหกิจ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้รับทราบ จากนั้นทางคณะจากจังหวัดอุทัยธานีประมาณ 25 คน พร้อมด้วยนายบูญช่วย ชุนหกิจ หัวหน้าอุทยานฯจากการนำทางของนายมนัส สีเสือ (เสือ ภูลมโล)ได้เดินทางเข้าไปที่รอยเท้าพระบาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ ชั่วโมงเศษๆก็ถึงที่หมาย
บริเวณจุดที่อยู่ของรอยเท้ารอบๆจะเป็นป่าดิบหนาทึบอยู่บริเวณลำห้วยต้นน้ำของป่าร่องกล้าอยู่ทางทิศใต้ของภูลมโล พบเด่นๆก็คือ 4 รอย ทั้ง 4 รอย ชวนให้เกิดอัศจัรรย์แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก คือที่บริเวณตรงกลางรอยเท้าจะปรากฏเป็นรูปใบโพธิ์ แต่ส่วนรูปใบโพธิ์นั้นตามที่ใช้มือสัมผัสจะนูนขึ้นมาจากพื้นผิว
พระผู้ใหญ่จากวัดท่าซุงอุทัยธานีบอกว่า รอยเท้าที่มีใบโพธิ์นี้มีที่เดียวคือภูหินร่องกล้า ถือว่าหนึ่งเดียวในโลก ดังนั้นทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจึงความร่วมมือนักท่องเที่ยวทั่วไป อย่าเข้าไปชมรอยพระบาทโดยไม่ได้รับอนุญาต และ อย่านำของแข็งไปขูดรอยเท้า อย่านำสีทองไปแต้มอาจทำให้รอยเท้าสึกกร่อนได้
………………………………………………………………………………………………………