กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติสร้างเครือข่ายพลังงานภาคอีสาน เยี่ยมชมแหล่งน้ำมันดิบบนบกที่ใหญ่ที่สุดของไทย

ที่โรงแรมเรือนแพ รอยัล ปาร์คจังหวัดพิษณุโลก นายสุรชัย มณีประกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวต้อนรับพร้อมเป็นประธานในการเปิดการสัมมนา สร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมแก่สื่อมวลชน และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสานประกอบด้วย จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด และอุดรธานี กว่า 30 คน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้แทนจากหน่วยงานราชการผู้นำท้องถิ่นและสื่อมวลชนท้องถิ่นให้ได้รับทราบถึงกระบวนการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ตลอดจนการกำกับดูแลและดำเนินงานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในการประกอบกิจกรรม กิจการปิโตรเลียมซึ่งกลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อเป็นเครือข่ายพลังงานและกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ตลอดจนต้องการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ ให้กลุ่มเป้าหมายนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อยอดการดำเนินงานด้านปิโตรเลียม นอกจากนี้ยังสามารถเป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นและสาธารณชนต่อไปได้

นายสันติ ทองวิลาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า สำหรับรูปแบบกิจกรรมครั้งนี้ต้องการการสร้างความรู้ความ เข้าใจด้านปิโตรเลียมกำหนดไว้ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการรับฟังการบรรยายเรื่องสถานการณ์ปิโตรเลียมในปัจจุบันศักยภาพของแหล่งปิโตรเลียมในประเทศและแนวทางการบริหารจัดการปิโตรเลียมและสำหรับส่วนที่ 2 จะเป็นการศึกษาดูงานแหล่งผลิตปิโตรเลียมและแหล่งน้ำมันสิริกิติ์ อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชรและศูนย์แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรตำบลหนองตูมอำเภอกงไกรลาศจังหวัดสุโขทัยที่ได้มีการนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินจากการผลิตน้ำมันดิบไปใช้กับวิสาหกิจชุมชนแทนก๊าซหุงต้มด้วยสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ถึงร้อยละ 50 ซึ่งนับเป็นผลงานความสำเร็จ ที่เห็นผลอย่างเป็นรูปประธรรมโครงการหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสังคมที่กรมเชื้อเพลิงพลังงานร่วมเงินการกับบริษัทผู้ประกอบการด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่

“แหล่งน้ำมัน สิริกิติ์ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. สผ. ถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางความรู้ด้านแหล่งผลิตปิโตรเลียมอย่างครบวงจร นอกจากจะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแล้วยังถือเป็นต้นแบบการประกอบกิจการด้านปิโตรเลียมที่อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืนความสำเร็จที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ที่บ้านหนองตูมคือการนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันดิบไปใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับวิสาหกิจชุมชนบ้านหนองตูมเพื่อทดแทนการใช้ก๊าซ LPG ทำให้ประหยัดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงไปได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์สร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชนตลอดจนสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน” นายสันติกล่าว

//////////

แสดงความคิดเห็น