เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 พ.ย. นายสรสิทธิ์ สังขะพงษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 158/1 หมู่ 4 บ้านเขาน้อย ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจากนายพงษ์ศักดิ์ ฉิมมาทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ว่ามีชาวบ้านในพื้นที่สามารถจับจระเข้กำลังคลานมานอนอาบแดดในป่ากล้วยเมื่อวานที่ผ่านมา จึงช่วยกันนำจระเข้มาจับขังไว้ในโอ่งน้ำข้างบ้าน โดยมียางมัดที่ปากอย่างหนาแน่นเพื่อป้องกันอันตราย ซึ่งเป็นจระเข้พันธุ์น้ำจืด เพศเมีย อายุประมาณ 1 ปี วัดความยาวตั้งแต่หัวถึงปลายห่าง 92 ซม. ความกว้างลำตัว 12 ซม. น้ำหนัก 2.3 กก. มีนิสัยดุร้ายส่งเสียงขู่และใช้หางฟาดไปมา จนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูกันอย่างคึกคัก
จากการสอบถาม นายพงษ์ศักดิ์ ฉิมมาทอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านเขาน้อย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจระเข้หลุดออกมาเพ่นพ่านตามแหล่งน้ำชุมชนบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านไปวางเบ็ดก็มีจระเข้มากินปลาที่ใช้ล่อเหยื่อ และสามารถจับจระเข้มาได้ถึง 3 ตัว ในระยะเวลาไม่กี่เดือนนี้ จนชาวบ้านที่ออกไปหาสัตว์น้ำและเด็กในหมู่บ้านต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา เกรงว่าถ้าหากลงไปเล่นในน้ำอาจถูกจระเข้กัดได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงแจ้งไปยังนายทวีศักดิ์ ฉิมมาทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านเขาน้อย ให้ออกประกาศแจ้งเตือนทางเสียงตามสายในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้ลงไปเล่นน้ำในระยะนี้ ส่วนจระเข้ที่พบตัวล่าสุดนั้น ทราบว่ามานอนอาบแดดอยู่ในป่ากล้วยแต่มียางมัดที่ปากไว้อยู่แล้ว คาดว่าน่าจะเป็นจระเข้ที่เลี้ยงไว้ในฟาร์มใกล้กับหมู่บ้าน ถ้าหากจระเข้หลุดไปตามคลองไส้ไก่ที่เชื่อมต่อกับลำน้ำเข็กบริเวณบ้านปากยาง อาจจะไปกัดทำร้ายนักท่องเที่ยวที่มาล่องแก่ง จึงรีบประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ประมง จ.พิษณุโลก เข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพื่อเตือนไปยังฟาร์มจระเข้ในพื้นที่ ว่าเป็นจระเข้ที่หลุดมาจากฟาร์มดังกล่าวหรือไม่
ด้าน นายสรสิทธิ์ สังขะพงษ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมารับจระเข้ตัวดังกล่าว ไปทำการอนุบาลที่สำนักงานประมง จ.พิษณุโลก และจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แก่งโสภา เนื่องจากจระเข้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมประมง พร้อมทั้งจะติดประกาศเป็นเวลา 7 วัน เพื่อหาเจ้าของจระเข้ว่าหลุดมาจากฟาร์มเชิงณิชย์หรือไม่ หากไม่พบว่ามีผู้ใดมาแสดงตนก็จะส่งจระเข้ไปไว้ที่ศูนย์เพาะเลี้ยงจระเข้น้ำจืด สำนักงานประมง จ.พิจิตร ทั้งนี้ที่ผ่านมาสำนักงานประมง จ.พิษณุโลก ดำเนินการเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยของฟาร์มจระเข้ในพื้นที่จำนวนกว่า 30 ฟาร์ม ว่ามีใบอนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการเคลื่อนย้ายจระเข้ในแต่ละครั้งจะต้องมีหนังสือคำสั่งจากผู้ว่าราชจังหวัด ถ้าหากมีการเคลื่อนย้ายที่หละหลวมอาจส่งผลให้จระเข้หลุดไปตามแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือตามชุมชนต่างๆ สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน จึงขอฝากเตือนไปยังฟาร์มจระเข้ทั้งหมดให้เพิ่มความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เพราะอาจมีความผิดถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้
………………………………………………………………………………………………